(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิปิดบวก 18.82 จุดแต่บรรยากาศซื้อขายซบเซา

          ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกขึ้นในวันนี้ (4 ก.ค.) แต่บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างเงียบเหงาหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่ยังปลีกตัวออกไปตั้งหลักอยู่นอกตลาดเพื่อรอปัจจัยใหม่ๆเข้ามาชี้นำตลาด เนื่องจากตลาดหุ้นและตลาดการเงินสหรัฐปิดทำการวันนี้เนื่องในวันชาติ
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิขยับขึ้น 18.82 จุด หรือ 0.1% ปิดที่ 18,168.72 จุด หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบ 18,207.97-18,143.58 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 1.52 พันล้านหุ้น ลดลงจากวานนี้ที่ 1.77 พันล้านหุ้น
          นายเรียวตะ โอทสึกะ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์โตโยกล่าวว่า "ตลาดไม่มีปัจจัยชี้นำที่สำคัญมากนัก จึงทำให้ภาวะการซื้อขายซบเซาลง ขณะที่นักลงทุนสหรัฐปลีกตัวออกไปนอกตลาดเนื่องในวันหยุด นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 และการเลือกตั้งสภาสูงญี่ปุ่นซึ่งจะมีขึ้นในปลายเดือนนี้"
          "แม้บรรยากาศการซื้อขายเงียบเหงาในวันนี้ แต่นักลงทุนกระตือรือร้นที่จะรอดูรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทเอกชน หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจ หรือ ทังกัน" เขากล่าว
          ผลสำรวจทังกันบ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากไตรมาสแรก โดยดัชนีอยู่ที่ระดับ +23 จุด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า บริษัทญี่ปุ่นมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ การปรับคลังสำรองสินค้าของกลุ่มธุรกิจไอที และต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นซึ่งฉุดตัวเลขผลกำไรให้ลดลง
          นอกจากนี้ ผลการสำรวจบ่งชี้ว่า บริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นวางแผนที่จะใช้จ่ายในโรงงานและอุปกรณ์ในโรงงานเพิ่มขึ้นอีก 7.7% ในปีงบประมาณ 2550 ซึ่งจะสิ้นสุด ณ เดือนมี.ค.ปีหน้า อย่างไรก็ตาม โดยส่วนใหญ่แล้ว บริษัทขนาดใหญ่คาดการณ์ว่าตัวเลขกำไรของบริษัทจะปรับตัวลดลง 0.3% ในปีงบประมาณ 2550
          ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวขึ้น โดยหุ้นมิตซุย ฟูโดซาน ดีดขึ้น 2.6% หุ้นมิตซูบิชิ เอสเตท บวกขึ้น 2.7% และหุ้นซูมิโตโม่ เรียลตี้ แอนด์ ดิเวลล็อปเมนท์ เพิ่มขึ้น 1.5% 
          ส่วนหุ้นกลุ่มสื่อสารได้รับความสนใจเช่นกัน โดยหุ้นซอฟท์แบงค์บวกขึ้น 3.1% ขณะที่หุ้นเคดีดีไอเพิ่มขึ้น 2.4% และหุ้นเอ็นทีทีปรับตัวขึ้น 0.5%