นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย ประธานกรรมการ บมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของปตท.ปีนี้มีโอกาสที่จะทำกำไรได้ต่ำกว่าระดับ 92,951 ล้านบาทในปีที่แล้ว หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และสงครามราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ปตท.ยืนยันที่จะยังคงจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างแน่นอน
"ปี 63 ก็ทราบกันอยู่โควิดเรื่องหนึ่ง ราคาน้ำมันที่ได้รับผลกระทบจากซาอุและรัสเซียทะเลาะกันอยู่ ขณะเดียวกันโควิดทำให้ธุรกิจ ธุรกรรมสูญไปเยอะ ถามว่าปตท.จะกำไรไหม กำไร ปีนี้กำไรแน่นอน แต่จะกำไรเยอะเหมือนเดิม ได้เก้าหมื่นสองไหม ไม่ได้หรอก จ่ายปันผล จ่าย แต่จะจ่าย 50 หรือ 60% หรืออย่างไร ก็ต้องดูอีกที"นายไกรฤทธิ์ กล่าวในที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้
นายไกรฤทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในอัตราเท่าใด หลังจากในปี 62 จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราราว 63% ของกำไรสุทธิ หรือ 2 บาท/หุ้น เพราะจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ทำให้คณะกรรมการได้มอบให้เป็นนโยบายหลักคือการรักษาสภาพคล่องและอันดับเครดิต เพราะหากเสียอันดับเครดิตจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของปตท.สูงขึ้น ดังนั้น การจะจ่ายปันผลต้องพิจารณาให้รอบคอบทุกด้าน ซึ่งรวมถึงด้านการลงทุนที่มีการลดการลงทุนบางโครงการ ส่วนบางโครงการที่จำเป็นก็ยังเดินหน้าต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากที่นักลงทุนบางรายอาจจะกังวลการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลของ ปตท. หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอให้ธนาคารพาณิชย์งดจ่ายปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานปี 63 นั้น ยืนยันว่าธุรกิจของ ปตท.แตกต่างจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ โดยการจ่ายปันผลจะพิจารณาเรื่องการลงทุน การรักษาสภาพคล่องและอันดับเครดิต และส่วนธนาคารพาณิชย์หากมีการจ่ายเงินปันผลออกไปมากก็จะกระทบต่อเงินกองทุนซึ่งมีผลต่อความสามารถในการปล่อยสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม ปตท.จะมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลหรือไม่ต้องรอดูผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ก่อน