นายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง รักษาการกรรมการผู้อำนวยการ บมจ. ซันเทคกรุ๊ป (SUNTEC) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2550 เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2550 มีมติอนุมัติการปรับราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 1,085,500,064 หุ้นที่เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัดและ/หรือนักลงทุนสถาบัน จากเดิมที่กำหนดไว้ที่ราคาหุ้นละไม่ต่ำกว่า 0.77 บาท เป็น ราคาหุ้นละไม่ต่ำกว่า 0.81 บาท โดยราคาเสนอขายดังกล่าวเป็นราคาเสนอขายที่ต่ำกว่า 10 บาทซึ่งเป็นมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัท
อย่างไรก็ตาม ราคาเสนอขายดังกล่าวเป็นราคาที่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาดตามหลักเกณฑ์การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นตามที่กำหนดตามประกาศข้างต้น
ทั้งนี้คณะกรรมการได้พิจารณาแก้ไขราคาเนื่องจากที่ประเมินโดยที่ปรึกษาทางการเงินได้ทำการทบทวนราคายุติธรรมให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น (หมายเหตุ: วิธีที่ใช้ในการประเมินราคายุติธรรมคือวิธีปรับปรุงมูลค่าหุ้นตามบัญชีโดยราคายุติธรรมที่ประเมินโดยที่ปรึกษาทางการเงินมีการปรับจาก ราคาหุ้นละ 0.85 บาทเป็น ราคาหุ้นละ 0.89 บาท)
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการบริษัทได้รับทราบรายงานการประเมินที่ดินที่บริษัท ไทยประเมินราคา ลินน์ ฟิลลิปส์ จำกัดที่ได้จัดทำรายงานการประเมินราคาที่ดิน ณ วันที่ 6 กรกฎาคม 2550 สำหรับที่ดินจำนวน 56-1-50 ไร่ โดยราคาประเมินอยู่ที่ 676,500,000 บาท ในขณะที่มูลค่าที่ดินตามสัญญาจะซื้อจะขายอยู่ที่ 845,625,000 บาท
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการของบริษัทฯ ได้ยืนยันมติเดิมตามการประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2550 ที่จัดขึ้น ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2550 กล่าวคือ ยังคงอนุมัติการซื้อที่ดิน เนื่องจากหากบริษัทจะทำการซื้อที่ดินดังกล่าวแล้วขายออกไปโดยมิได้ทำการพัฒนาใดๆ การซื้อที่ดินดังกล่าวอาจมีความไม่เหมาะสม เนื่องจากมูลค่าที่ดินตามการซื้อขาย คือ 845,625,000 บาท สูงกว่าราคาประเมินคิดเป็นร้อยละ 25 ของราคาประเมิน ทั้งนี้ พิจารณาจากรายงานการประเมินราคาที่ดินขึ้น ณ วันที่ 6 กรกฎาคม 2550
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทพิจารณาการซื้อที่ดินเพื่อจะทำการพัฒนามิใช่การซื้อที่ดินเพียงเพื่อขายออกไปเท่านั้น ดังนั้นคณะกรรมการบริษัทจึงคำนึงถึงประโยชน์ที่พึงจะได้รับจากการพัฒนาที่ดินเป็นสำคัญ มิใช่เพียงพิจารณาที่มูลค่าการซื้อที่ดินเพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ การจัดหาที่ดินชั้นดีที่มีขนาดใหญ่บนทำเลดีและติดชายหาดมีความยากมาก นอกจากนี้ผู้ประกอบการขนาดใหญ่หลายรายมีการลงทุนขนาดใหญ่เพื่อที่จะพัฒนาที่ดินเป็นโครงการต่อเนื่อง ซึ่งทำให้มีการแข่งขันกันสูงในการจะได้มาซึ่งที่ดินที่มีขนาดใหญ่และทำเลดี ซึ่งเป็นผลให้ผู้ขายที่ดินขนาดใหญ่มีอำนาจการต่อรองราคาค่อนข้างสูงในเรื่องของมูลค่าที่ดิน อย่างไรก็ดี หากบริษัท
นำที่ดินมาพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม โรงแรมและร้านค้า จะทำให้บริษัทสามารถใช้ประโยชน์จากการพัฒนาที่ดินจากเนื้อที่ดินที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงทำเลที่ตั้งก็สามารถดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทำให้สร้างความเชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวมีศักยภาพอย่างมากที่จะประสบความสำเร็จในอนาคต
อีกทั้ง เมื่อพิจารณามูลค่าการซื้อที่ดินที่สูงกว่าราคาประเมิน มาเปรียบเทียบกับผลประโยชน์ที่พึงจะได้รับจากการพัฒนาโครงการบนที่ดินดังกล่าว พบว่า การพัฒนาโครงการมีศักยภาพที่จะนำมาซึ่งผลตอบแทนในการลงทุนคุ้มค่า เนื่องจากโครงการดังกล่าวถือเป็นก้าวแรกของบริษัทที่จะทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และจากรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ คาดว่าการซื้อที่ดินดังกล่าวแล้วนำมาพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม โรงแรมและร้านค้า ในบริเวณแถบชายหาดพัทยา จะสร้างผลตอบแทนที่ดี และมีศักยภาพสูงที่จะประสบความสำเร็จในอนาคต ดังนั้นทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวจะทำบริษัทมีสถาน ภาพทางการเงินที่ดีขึ้น และเป็นที่รู้จักคุ้นเคยอย่างรวดเร็วในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
--อินโฟเควสท์ โดย รัชดา คงขุนเทียน/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--