BBL ขยายเวลามาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยจากโควิดเฟส 2 ทั้งปรับลดเพดานดบ.-เพิ่มวงเงิน-ปรับโครงสร้างหนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 7, 2020 14:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เปิดเผยว่าตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศมาตรการเพิ่มเติมระยะที่ 2 เพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น ธนาคารเข้าใจถึงสถานการณ์ที่ประชาชนยังคงเผชิญอยู่ ด้วยเหตุนี้จึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย ครอบคลุมลูกค้าบัตรเครดิต ลูกค้าสินเชื่อบุคคลภายใต้การกำกับ ลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อที่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน โดยเน้นการปรับลดเพดานดอกเบี้ยเป็นการทั่วไป การเพิ่มวงเงิน และมาตรการขั้นต่ำเพิ่มเติม เช่น การลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำ การเปลี่ยนสินเชื่อระยะสั้นเป็นระยะยาว การลดค่างวด การเลื่อนชำระค่างวดหรือเงินต้น เป็นต้น รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้เพื่อช่วยลูกค้าลดความวิตกและกังวลใจจากผลกระทบดังกล่าว

สำหรับมาตรการช่วยเหลือลูกค้าดังกล่าว ประกอบด้วยรายละเอียด ดังนี้

สินเชื่อบัตรเครดิต มาตรการทั่วไป โดยปรับลดเพดานดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 16% ต่อปี (จากเดิม 18% ต่อปี) มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 ขยายวงเงินให้แก่ลูกค้าที่มีความจำเป็นและมีประวัติการชำระหนี้ที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับลูกค้าที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่ำกว่า 30,000 บาท จาก 1.5 เท่า เป็น 2 เท่า เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2564 มาตรการขั้นต่ำ ลูกค้าสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2563

คงอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำ 5% ในปี 2563-2564 เป็น 8% ในปี 2565 และ 10% ในปี 2566

เปลี่ยนประเภทเป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลา (term loan) 48 งวด หรือขยายระยะเวลาตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 12% ต่อปี ทั้งนี้การพิจารณาให้ใช้วงเงินที่เหลืออยู่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาของธนาคาร โดยเมื่อรวมกับยอดคงเหลือของสินเชื่อเดิมต้องไม่เกินกว่าวงเงินที่ได้รับการอนุมัติ

พร้อมมีมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทำให้รายได้ไม่เพียงพอในการชำระหนี้ โดยพิจารณาเป็นรายกรณี

สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ มาตรการทั่วไป โดยปรับลดเพดานดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 25% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563, ขยายวงเงินให้แก่ลูกค้าที่มีความจำเป็นและมีประวัติการชำระหนี้ที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับลูกค้าที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนหรือกระแสเงินสดหมุนเวียนเข้าในบัญชีเงินฝากเฉลี่ยต่อเดือนต่ำกว่า 30,000 บาท จาก 1.5 เท่า เป็น 2 เท่า เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564

มาตรการขั้นต่ำ ลูกค้าสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563

ส่วนประเภทสินเชื่อที่มีลักษณะหมุนเวียน (Revolving Loan) ลดอัตราผ่อนขั้นต่ำ ตามความสามารถในการชำระหนี้ เปลี่ยนเป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลา (term loan) 48 งวด หรือขยายระยะเวลาตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี ทั้งนี้จะพิจารณาให้ใช้วงเงินที่เหลือตามความสามารถในการชำระหนี้ตามเกณฑ์การพิจารณาของธนาคาร ประเภทสินเชื่อที่ผ่อนชำระเป็นงวด (Installment Loan) และลดค่างวดอย่างน้อย 30% โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี

สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อที่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน ลูกค้าสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 โดยเลื่อนชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) เป็นระยะเวลา 3 เดือน หรือ เลื่อนชำระเงินต้น (จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย) เป็นระยะเวลา 3 เดือน และพิจารณาลดดอกเบี้ยให้ลูกค้าแต่ละรายตามความเหมาะสม หรือ ลดค่างวดโดยขยายเวลาการชำระหนี้ และช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อที่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน โดยพิจารณาเป็นรายกรณีตามหลักเกณฑ์การพิจารณาของธนาคาร

การปรับปรุงโครงสร้างหนี้

กรณีที่ลูกค้าไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามสัญญา หรือมาตรการขั้นต่ำ หรือมาตรการอื่น ธนาคารจะเร่งดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้แก่ลูกค้า โดยคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าและบรรเทาความเดือดร้อนเป็นการเร่งด่วนต่อไป

"มาตรการเหล่านี้ธนาคารกรุงเทพได้เร่งดำเนินการเพื่อช่วยเหลือลูกค้าและบรรเทาความเดือดร้อนเป็นการเร่งด่วน โดยเน้นให้ความช่วยเหลือทั้งในวงกว้างแก่ลูกค้าเป็นการทั่วไป และความช่วยเหลือแบบเจาะจงสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ซึ่งเน้นให้ความช่วยเหลือก่อนที่ลูกค้าจะกลายเป็นหนี้เสีย มิฉะนั้นจะกระทบต่อประวัติเครดิตของลูกค้า อันจะเป็นผลเสียต่อการขอใช้บริการสินเชื่ออื่นๆ ในอนาคต" นายสุวรรณ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ