นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจถ่านหินว่า กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ได้มีคำสั่งซื้อบิ๊กล็อต (Big Lot) จำนวน 7 แสนตันเข้ามา ซึ่งจะทยอยส่งมอบในครึ่งปีหลังของปีนี้ ขณะที่บริษัทยังคงเดินหน้าทำการตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเวียดนาม จีน และกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจนอกเหนือจากตลาดในประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทร่วมทุน คือ บริษัท แอท เอนเนอจี โซลูชั่น จำกัด ช่วงครึ่งปีหลังนี้จะซื้อกิจการโรงไฟฟ้าโซลาร์ขนาด 5 เมกะวัตต์สำเร็จและจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามา ส่วนธุรกิจจำหน่ายไอน้ำที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโครงการและติดตั้ง Boiler ขนาด 6 ตัน เพื่อผลิตไอน้ำจากกระบวนการผลิตนั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จและรับรู้รายได้ในช่วงปลายปีนี้ จึงเชื่อว่ารายได้ในปีนี้และปริมาณการขายถ่านหินที่ระดับ 3.5 ล้านตันสามารถทำได้ตามเป้าที่วางไว้
ส่วนภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลัง 63 คาดว่าภาคอุตสาหกรรมจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่กลางไตรมาส 3/63 ภายหลังการเริ่มทยอยผ่อนคลายมาตรการการควบคุมกิจการและกิจกรรมต่างๆ ให้กลับมาดำเนินธุรกิจได้ปกติมากขึ้น บวกกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีการปรับกลยุทธ์ด้านการบริหารจัดการเพิ่มมากขึ้น โดยมุ่งเน้นถึงผลประโยชน์และความมั่นคงด้านอัตราการเติบโตของธุรกิจเป็นสำคัญ ทั้งในส่วนของธุรกิจถ่านหิน และธุรกิจโลจิสติกส์ ได้แก่ การขนส่งทางน้ำ-ทางบก รวมทั้งการให้บริการท่าเรือและคลังสินค้าเต็มรูปแบบ
ปัจจุบัน ธุรกิจโลจิสติกส์ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ล่าสุดได้มีการทำสัญญาการให้บริการโลจิสติกส์กับกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ โดยมีปริมาณรวม 2 ล้านตัน หรือคิดเป็นมูลค่า 340 ล้านบาท ซึ่งจากปริมาณการขนส่งดังกล่าวถือว่าเป็นไปตามนโยบายการเพิ่มจำนวนเรือลำเลียงในปี 63 ซึ่งจะส่งมอบช่วงเดือน ก.ค.นี้ครบ 36 ลำ และมีรถบรรทุกครบทั้งหมด 51 คัน พร้อมทั้งเตรียมขยายท่าเรือแห่งที่ 4