นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. กรุงไทย ซีมิโก้ (KTZ) คาดแนวโน้มตลาดหุ้นไทยไตรมาส 3/63 ผันผวนสูงขึ้น และเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,200-1,450 จุด โดยเฉพาะในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. ต่างจาก ไตรมาส 2/63 ที่เคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นจาก 1,125 จุด ไปสูงสุดที่ 1,454 จุด
เนื่องจากมีสัญญาณเตือนจากหลายปัจจัยเสี่ยง เช่น การปรับลดประมาณการเติบโตเศรษฐกิจและผลกำไรบริษัทจดทะเบียน การระบาดรอบสองของโควิด-19 ที่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิด W-Shape Recovery ปัญหาการค้าจีนกับสหรัฐฯ อาจตึงเครียดมากขึ้น จากนโยบายหาเสียงของประธานาธิบดีทรัมป์ เฟดเริ่มพิจารณามาตรการ Yield Curve Control เพื่อลดงบประมาณใช้จ่าย
ส่วน Upside Risks จะมาจากพัฒนาการของวัคซีนรักษาโควิด-19 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล
สำหรับกลยุทธ์ลงทุน นายถนอมศักดิ์ แนะนำว่า หากอิงจากผลสำรวจของสำนักวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐฯ ปี ค.ศ.1964-2015 พบว่าการลงทุนในหุ้นปันผลดีและหุ้นที่มีสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่ากลุ่มอื่น ๆ ในช่วงเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ดังนั้น กรุงไทย ซีมิโก้ แนะนำพอร์ตลงทุน 1) หุ้นที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่งหรือมีผลกระทบน้อยจากโควิด-19 2) หุ้น Dividend Play และ 3) หุ้นที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในระยะยาว
ด้านนายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงไทย ซีมิโก้ ให้มุมมองการลงทุนทางเทคนิค โดยคาดว่าดัชนีจะยังคงเคลื่อนไหวอย่างผันผวน มีกรอบด้านล่างไว้ที่ 1,200-1,193 จุด ด้านบน 1,442-1,450 จุด โดยคาดว่าดัชนีถูกขับเคลื่อนจากเม็ดเงินที่ไหลเข้า-ไหลออกเป็นหลัก อย่างไรก็ดี คาดว่าดัชนีจะไม่ทรุดตัวลงแรง ๆ จนสร้างจุดต่ำใหม่ เพราะสภาพคล่องในตลาดมีมาก ทำให้มองว่าการอ่อนตัวลงของดัชนี จะเป็นโอกาสทยอยสะสม ซึ่งเป็นลักษณะเหวี่ยงตัวขึ้นลงสลับไปมา
ขณะที่กลยุทธ์การลงทุนในตราสารอนุพันธ์ นายภมร สุวรรณสาครกุล ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ ได้ให้กลยุทธ์ลงทุนไว้ว่า ภาพรวม SET50 ฟื้นตัวจากต้นไตรมาส 2 จากระดับ 730 จุดมาเคลื่อนไหวที่บริเวณ 900 จุดได้ถือเป็นการฟื้นตัวที่รวดเร็วมาก และความผันผวนถึงแม้จะลดลง แต่ความเสี่ยงของ โควิด-19 ยังไม่ได้หมดไปและมีโอกาสที่ดัชนีจะแกว่งตัวรุนแรงอีกรอบ หากดัชนีหลุด 850 จุดเราแนะนำให้เปิดสัญญา Short เพื่อเพิ่มโอกาสในการเก็งกำไร
"ต้นไตรมาส 3 นี้ ทาง TFEX ได้ประกาศ Stock Futures 12 ตัวใหม่ ที่จะเข้าซื้อขายในวันที่ 13 ก.ค. นี้ ได้แก่ BPP EASTW JMT M MBK OSP THG TOA TPIPP TQM VNT WHAUP ซึ่งในอดีตหุ้นที่ถูกเลือกนำเข้ามาเทรดใน Stock Futures จะปรับตัวขึ้นในช่วง 1 - 2 เดือนแรก" นายภมร กล่าว