ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) เพราะได้แรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดิ่งลงอย่างรุนแรง และจากแรงขายที่ส่งเข้ากระหน่ำหุ้นบริษัทบีพีเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อการแสดงความคิดเห็นของผู้บริหาร
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 125.7 จุด ปิดที่ 6,498.7 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 3.03 พันล้านหุ้น
นายริชาร์ด ฮันเตอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ฮาร์เกรเวส แลนส์ดาวน์ กล่าวว่า "ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเป็นไปอย่างผันผวนและถูกกระทบจากความวิตกกังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ย เราตั้งข้อสังเกตุว่าเมื่อตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้น ตลาดหุ้นลอนดอนจะไม่กระเตื้องขึ้นมากนัก แต่เมื่อตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง ตลาดหุ้นลอนดอนจะร่วงลงตามทันที"
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 6% ในการประชุมเดือนหน้า และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.25% ภายในปลายปีนี้
นักลงทุนส่งแรงขายเข้ากระหน่ำหุ้นบีพีจนร่วงลง 11-1/2 เพนซ์ ปิดที่ 590 เพนซ์ หลังจากนายโทนี่ เฮย์วาร์ด ซีอีโอคนใหม่ของบีพีคาดการณ์ว่าในระยะใกล้นี้ผลประกอบการและกระแสเงินสดหมุนเวียนของบริษัทจะได้รับแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ
ส่วนหุ้นเฟรนด์ โพรวิเดนท์รูดลง 4-1/2 เพนซ์ ปิดที่ 196-1/2 เพนซ์ จากแรงขายทำกำไร และหลังจากนักวิเคราะห์ของเอสจี ซิเคียวริตีส์ประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงสู่ระดับ 'hold' จากเดิมที่ระดับ 'buy'
อย่างไรก็ตาม หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สพุ่งขึ้น 3-1/2 เพนซ์ ปิดที่ 738-1/2 เพนซ์ เนื่องจากนักลงทุนบางกลุ่มเชื่อว่าบาร์เคลย์สจะไม่สามารถซื้อกิจการเอบีเอ็น แอมโร ได้ ซึ่งนักลงทุนมองว่าเป็นเรื่องดี
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--