ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงขายหุ้นกลุ่มเหมือง ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 38.6 จุด

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดรูดลงเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคของอังกฤษปรับตัวสูงขึ้นอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม ดัชนีสามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้เพราะได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่สามารถพุ่งผ่านระดับ 14,000 จุดได้ ซึ่งเป็นผลมาจากดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย.ที่ปรับตัวลงเกินคาด
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 รูดลง 38.6 จุด ปิดที่ 6,659.1 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,628.1-6,698.5 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.8 พันล้านหุ้น
          นักลงทุนส่งแรงเทขายเข้าฉุดตลาดหุ้นลอนดอน หลังจากนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคในรอบปีซึ่งสิ้นสุด ณ เดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 2.4% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
          หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ถูกแรงขายกระหน่ำลงหนักสุด โดยหุ้นลอนมินร่วงลง 152 เพนซ์ ปิดที่ 3,833 เพนซ์ หลังจากนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ประกาศลดเป้าหมายราคาหุ้นลอนมินลงสู่ระดับ 3,790 เพนซ์ จากเดิมที่ระดับ 3,880 เพนซ์ สืบเนื่องมาจากบริษัทลอนมินประกาศลดคาดการณ์ผลประกอบการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
          ขณะที่หุ้นเวดันต้ารูดลง 44 เพนซ์ ปิดที่ 1,771 เพนซ์ หุ้นอันโตฟากัสต้าร่วงลง 13 เพนซ์ ปิดที่ 703 เพนซ์ และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปรับตัวลง 23 เพนซ์ ปิดที่ 1,486 เพนซ์
          อย่างไรก็ตาม หุ้นเททแอนด์ไลล์ ทะยานขึ้น 28 เพนซ์ ปิดที่ 600 เพนซ์ หลังจากนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ประกาศเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 'buy' จากเดิมที่ระดับ 'neutral' ก่อนที่บริษัทเททแอนด์ไลล์ จะเปิดเผยผลประกอบการ