นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่า จะแกว่งไซด์เวย์ในลักษณะของการปรับฐานไปก่อนในช่วงรอปัจจัยใหม่เข้ามา ซึ่งดัชนีฯมีโอกาสแกว่งขึ้น-ลง คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดของประเทศใหญ่ ๆ จะเคลื่อนไหวในแดนบวก อย่างตลาดหุ้นญี่ปุ่นบวก เป็นต้น ทั้งนี้มองว่าตลาดคงจะแกว่งเพื่อรอลุ้นหลายปัจจัยในสัปดาห์หน้า
โดยสัปดาห์หน้ามีการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนทั้งในประเทศ และสหรัฐฯ, จีนจะประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP), การประชุมกลุ่มโอเปก, การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อย่างไรก็ดี ให้ติดตามความสัมพันธ์ระหว่างจีน และสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด
ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยังน่าเป็นห่วง แม้ว่าจะมีข่าวคืบหน้าเรื่องวัคซีนต้านโควิด-19 ออกมาบ้าง อย่างไรก็ดีมองว่านักลงทุนคงจะเลือกซื้อหุ้นที่คาดว่างบฯจะออกมาดี และหุ้นที่ได้รับผลดีจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ยืดเยื้อ อย่างหุ้นในกลุ่ม Packaging ที่มาแรง อย่างหุ้น AJ, PTL จากความต้องการใช้ถุงพลาสติกในการถนอมอาหารมากขึ้น ซึ่งก็เป็น New normal
พร้อมให้แนวรับ 1,354-1,340 จุด ส่วนแนวต้าน 1,370-1,377 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (8 ก.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,067.28 จุด เพิ่มขึ้น 177.10 จุด (+0.68%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,169.94 จุด เพิ่มขึ้น 24.62 จุด (+0.78%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,492.50 จุด เพิ่มขึ้น 148.61 จุด (+1.44%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 3.65 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.04 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 221.95 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 52.71 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 12.27 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 9.43 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.44 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 3.07 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 ก.ค.63) 1,362.46 จุด ลดลง 10.76 จุด (-0.78%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,143 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ก.ค.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (8 ก.ค.63) ปิดที่ 40.90 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.7%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 ก.ค.) อยู่ที่ 0.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.15 แข็งค่าจากวานนี้ตามทิศทางสกุลเงินหลัก หลังดอลล์อ่อน จับตา Flow ส่งออกทองคำหลังราคาพุ่ง
- กนง.กำชับแบงก์ชาติตั้งกลไกปรับโครงสร้างหนี้ที่มีเจ้าหนี้หลายรายเพื่อบริหารหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมแนะเพิ่มบทบาท "เอเอ็มซี" ช่วยแยกหนี้เสียมาบริหาร ด้าน บสก. ขานรับนโยบาย หนุนปัดฝุ่น "คปน." ช่วยส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ทำหน้าที่คล้าย "คลินิกแก้หนี้" ย้ำบริษัทมีเงินทุนพร้อมซื้อหนี้มาบริหารได้ถึง 5 หมื่นล้าน ด้าน"แซม"ถกแผนอุ้มลูกหนี้
- ครม.เห็นชอบงบฟื้นฟูล็อตแรก 5 โครงการ วงเงิน 1.5 หมื่นล้าน เน้นจ้างงาน ยกระดับเกษตรกร นายกฯสั่ง ทยอยเสนอล็อตละไม่เกิน 1 แสนล้าน วอนผู้มีเงินจับจ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ อนุมัติจัดโมโตจีพี 5 ปีอุดหนุนค่าลิขสิทธิ์ 900 ล้านบาท มั่นใจสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ
- โฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า สถานการณ์การประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) ในเดือนพฤษภาคม 2563 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดือนเมษายน 2563 มากนัก ถึงแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จะลดความรุนแรงลงไปแล้ว โดยมีผู้ยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์สะสมสุทธิ 1,199 ราย เพิ่มขึ้น 5 ราย ประกอบด้วย ผู้ยื่นคำขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อประเภทพิโกไฟแนนซ์สุทธิ (มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ให้สินเชื่อแก่ประชาชนได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อราย และเรียกเก็บดอกเบี้ย กำไรจากการให้สินเชื่อ ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมอื่นใด รวมกันได้ไม่เกิน 36% ต่อปี) จำนวน 1,042 ราย
- กรณีที่การบินไทยจะกลับมาทำการบินในเดือน ส.ค.นี้ จากสุวรรณภูมิไปยังเมืองต่างๆ รวม 36 เมือง 37 จุดบินทั่วโลก พร้อมทั้งเปิดให้สำรองที่นั่งในเที่ยวบินระหว่างประเทศผ่านระบบจัดจำหน่ายและสำรองที่นั่งทั่วโลกนั้น ยังไม่มีการรายงานเป็นทางการ คาดว่าแนวทางดังกล่าวน่าจะเป็นแผนทางธุรกิจที่จะดำเนินการ ส่วนจะบินได้หรือไม่นั้นต้องรอที่ประชุม ศบค.พิจารณาในเรื่องการเปิดบินระหว่างประเทศ
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้ จะเป็นช่วงรอยต่อธุรกิจเอสเอ็มอี เพราะมาตรการพักชำระหนี้จะสิ้นสุดลง คาดว่าสถานการณ์ในปัจจุบันยังไม่แน่นอนทำให้ทางการไทยอาจต่ออายุโครง การหรือออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม เช่น มาตรการในต่างประเทศ เป็นโครงการเน้นการรักษาตำแหน่งงานโดยตรง ซึ่งจะมีเงื่อนไขสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่าพิเศษ หรือการอุดหนุนสินเชื่อให้เปล่าให้กับผู้ประกอบการ
*หุ้นเด่นวันนี้
- TU (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 15.3 บาท ได้ Sentiment บวกจากค่าเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและเงินยูโร ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการ Q2/6320 มีแนวโน้มที่จะออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 900-1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ราคายังมี downside จำกัด เพราะมี P/E ต่ำเพียง 13 เท่า คิดเป็น -2.5SD
- SUSCO (เคจีไอ) เป้า Consensus 3.65 บาท ประเมินรับ Sentiment บวกจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้ดีมานด์น้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อการเดินทาง + ขนส่งฟื้นตัว ด้าน Valuation ไม่แพง PE ปีนี้ 13.6 เท่า, PBV 0.81 เท่า และคาดรับ Sentiment บวกจากการใกล้ IPO บริษัทลูกของ PTT (OR) จึงเลือกเป็นหุ้นเด่น พร้อมประเมินแนวรับ 2.6 บาท / แนวต้าน 2.7 - 2.9 บาท (Stop loss 2.5 บาท)