ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีผ่อนคลายมากขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงรู้สึกกังวลก่อนที่กลุ่มบริษัทเอกชนจะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ในสัปดาห์นี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 38.29 จุด หรือ 0.28% ปิดที่ 13,649.97 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 1.41 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 1,531.85 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 3.51 จุด หรือ 0.13% ปิดที่ 2,670.02 จุด
ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.34 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 6 ต่อ 5 ขณะที่ปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 1.92 พันล้านหุ้น
นักลงทุนขานรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภท 10 ปีของสหรัฐที่ร่วงลงแตะระดับ 5.16% จากระดับของวันศุกร์ที่ 5.18%
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่รอดูรายงานผลประกอบการของบริษัทเอกชนเพื่อนำมาเป็นปัจจัยบ่งชี้ทิศทางของตลาดในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ แต่ก็มีบริษัทบางแห่งรายงานตัวเลขกำไรอย่างไม่เป็นทางการ โดยเฉพาะผลประกอบการของบริษัทอัลโคซึ่งเป็นผู้ผลิตแร่อลูมิเนียม ที่ออกมาสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับอิทธิพลจากข่าวการเข้าซื้อหุ้นและควบรวมกิจการของบริษัทเอกชน โดยมีข่าวว่าบริษัทเฮ็กซิออน สเปเชียตี้ เคมิคอล ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของอพอลโล เมเนจเมนท์ ได้เพิ่มข้อเสนอซื้อหุ้นในบริษัทฮันส์แมน คอร์ป และข่าวที่ว่าบริษัทเฟ็ดเอ็กซ์ คอร์ป อาจจะรับข้อเสนอซื้อหุ้นจากไพรเวท อิควิตี้บางแห่ง รวมทั้งข่าวที่ว่าบริษัทโคเวนทรี เฮลธ์ อิงค์ ตกลงที่จะเข้าซื้อหุ้นในบริษัทฟลอริด้า เฮลธ์ แพลน แอดมินิสสเตรเตอร์ส
นายเจย์ ซัสไคน์ นักวิเคราะห์จากบริษัทไรอัน เบค แอนด์ โค กล่าวว่า "เนื่องจากตลาดมีข้อมูลเศรษฐกิจไม่มากนัก และยังไม่มีผลประกอบการของบริษัทเอกชนเข้ามาเป็นปัจจัยชี้นำในระยะนี้ นักลงทุนจึงให้น้ำหนักกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวลดลง"
เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่ายอดสินเชื่อผู้บริโภคในเดือนพ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.4% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าเดือนเม.ย.ที่ขยับขึ้นเพียง 1.1%
ทั้งนี้ หุ้นอัลโคซึ่งเป็นผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก พุ่งขึ้น 70 เซนต์ ปิดที่ 42.36 ดอลลาร์ หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่หุ้นเฟ็ดเอ็กซ์ดีดขึ้น 4.8% หลังจากมีรายงานว่าเฟ็ดเอ็กซ์อาจตอบรับข้อเสนอซื้อหุ้นจากไพรเวท อิควิตี้แห่งหนึ่ง
ส่วนหุ้นโบอิ้งทะยานขึ้น 1.02 ดอลลาร์ ปิดที่ 99.90 ดอลลาร จากรายงานที่ว่าโบอิ้งได้รับยอดสั่งซื้อเครื่องบินรุ่น 787 ดรีมไลเนอร์ เป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านดอลลาร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--