โบรกเกอร์ต่างเชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) มองผลประกอบการครึ่งหลังปีนี้ ฟื้นตัวหลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง (Lock down) ส่งผลให้ผู้ป่วยในประเทศเริ่มกลับเข้ามารับการรักษามากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังจะทยอยผ่อนปรนให้ต่างชาติเดินทางเข้าประเทศทั้งกลุ่มผู้ป่วย , นักธุรกิจ และบุคคลสำคัญต่าง ๆ เบื้องต้นมีผู้ป่วยต่างชาติราว 1,700 คนจากหลายประเทศขอเข้ามารับการรักษาพยาบาลในไทย ซึ่งส่งผลดีกับ BDMS ที่มีสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยชาวต่างชาติ 30%
พร้อมมองบวกต่อความร่วมมือเพื่อให้บริการด้านสุขภาพสำหรับกลุ่มลูกค้า PING AN HEALTH ในจีน คาดว่าจะมีผู้ที่เข้ามารับบริการรักษาโรคมะเร็งและศัลยกรรมกระดูกอย่างน้อย 1,000-4,000 คน/ปี สร้างรายได้ 1-2 พันล้านบาท/ปี
พักเที่ยงราคาหุ้น BDMS อยู่ที่ 22.80 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ 0.44% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.64%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) ฟิลลิป(ประเทศไทย) ทยอยซื้อ 25.00 ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ ซื้อ 25.00 ทิสโก้ ซื้อ 25.00 ไทยพาณิชย์ ซื้อ 26.00
นักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า คาดผลประกอบการ BDMS ช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก หลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และหากมีการเปิดให้สามารถบินข้ามประเทศได้ คาดว่ากลุ่มแรกที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทย คือ กลุ่มผู้ป่วยต่างชาติ, Medical Tourism, กลุ่มนักธุรกิจ และกลุ่มบุคคลสำคัญต่างๆ ซึ่งจะเป็นผลดีกับโรงพยาบาล
นอกจากนี้ BDMS ยังคงเน้นการบริหารจัดการต้นทุนอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะสามารถลดต้นทุนผันแปรของปี 63 ได้ราว 200 ล้านบาท และวางเป้าลดงบการลงทุนราว 50% พร้อมกันนี้ยังออกโปรโมชั่นและให้บริการเพิ่มเติมเพื่อประคองธุรกิจช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด ขณะเดียวกันเตรียมเปิดโรงพยาบาลใหม่ 1 แห่งในปีนี้ คือ ที่จอมเทียน พัทยา ขนาด 30 เตียง ซึ่งจะเข้ามาช่วยหนุนผลการดำเนินงาน
ขณะที่ล่าสุดได้ร่วมมือกับ PING AN HEALTH โดย BDMS คาดว่าจะมีลูกค้าชาวจีนที่ทำประกันของ PING AN HEALTH จะเข้ามารับบริการรักษาโรคมะเร็ง และศัลยกรรมกระดูกอย่างน้อย 1,000-4,000 คน/ปี ซึ่งในช่วงแรกของความร่วมมือ PING AN HEALTH ก็จะเริ่มทำการตลาดเพื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดย BDMS คาดหวังว่าความร่วมมือครั้งนี้จะสร้างรายได้เข้ามาปีละ 1-2 พันล้านบาท คิดเป็นประมาณ 1-2% ของรายได้ในปี 62 ภายใต้สถานการณ์ปกติ
PING AN HEALTH ซึ่งประกอบธุรกิจประกันรายใหญ่จากประเทศจีน ซึ่ง BDMS จะเสนอแนวทางการรักษาและบริการสุขภาพในด้านต่างๆ ที่พัฒนาขึ้นเฉพาะสำหรับกลุ่มลูกค้า PING AN HEALTH ในประเทศจีน อาทิ โปรแกรมตรวจร่างกายพื้นฐาน โปรแกรมการตรวจและรักษาโรคเฉพาะทาง ทั้งระดับทั่วไปและที่มีความซับซ้อนโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โปรแกรมตรวจคัดกรองและการรักษาโรคมะเร็ง การรักษาด้านศัลยกรรมกระดูก การผ่าตัดเปลี่ยนสะโพกและการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า การรักษาโรคหัวใจและระบบประสาท เป็นต้น รวมไปถึงมีบริการพิเศษในการให้คำปรึกษาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในไทย ให้บริการด้านวีซ่า ตลอดจนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหรือการเดินทางจากสนามบินเพื่อเข้ารับการรักษา
ปัจจุบัน BDMS มีโรงพยาบาลทั้งหมด 49 แห่ง แบ่งออกเป็น 6 กลุ่มโรงพยาบาล ได้แก่ กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ, กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช, กลุ่มโรงพยาบาลพญาไท, กลุ่มโรงพยาบาลเปาโล, โรงพยาบาล BNH และกลุ่มโรงพยาบาลรอยัล มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและพยาบาลกว่า 22,000 คน มีจำนวนเตียงที่พร้อมใช้งาน 6,000 เตียง และสามารถขยายเพิ่มได้ถึง 8,000 เตียง โดยไม่ต้องลงทุนสร้างโรงพยาบาลใหม่เพิ่มเติม
บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ผลประกอบการของ BDMS ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ ล่าสุดภาครัฐได้ผ่อนคลายให้ต่างชาติเดินทางเข้ายังประเทศไทยได้ ซึ่งอยู่ในกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติ และ Medical Tourism โดยส่วนใหญ่มาจากประเทศกลุ่มลูกค้าของ BDMS ทำให้จะได้รับประโยชน์ดังกล่าวมากที่สุดในกลุ่มโรงพยาบาล
ขณะที่มองบวกต่อความร่วมมือกับ PING AN HELTH บริษัทประกันรายใหญ่จากประเทศจีน เพราะจะช่วยหนุนตลาดเชิงรุกในประเทศจีน ขยายฐานลูกค้าและส่งต่อคนไข้จากประเทศจีนมายังประเทศไทยมากขึ้น โดยสามารถเข้ารับการรักษากับเครือ BDMS ได้ทั้ง 49 แห่ง เป็นผลดีต่อรายได้ค่ารักษาระยะยาวที่จะเริ่มตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้
ด้านบทวิเคราะห์บล.ไทยพาณิชย์ ระบุว่า แนวโน้มผลประกอบการของ BDMS ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ จะปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่ภาครัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้ผู้ป่วยในประเทศเริ่มกลับเข้ามารับการรักษา ในขณะเดียวกันประเทศไทยก็เปิดให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทยตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ก.ค. เช่น ชาวต่างชาติที่แต่งงานกับคนไทยและมีถิ่นพำนักถาวรในประเทศไทย บุคลากรทางการศึกษา และชาวต่างชาติที่ต้องการเข้ามารับการรักษาพยาบาลในประเทศไทยและผู้ติดตาม
มีรายงานว่า ผู้ป่วยชาวต่างชาติจำนวน 1,700 คน จากเมียนมา เวียดนาม จีน กาตาร์ โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขอเข้ามารับการรักษาพยาบาลในประเทศไทย ขณะที่ BDMS มีสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยชาวต่างชาติอยู่ค่อนข้างมากราว 30% ของผู้ป่วยทั้งหมด โดยโรงพยาบาลของ BDMS มีคุณสมบัติพร้อมให้บริการผู้ป่วยชาวต่างชาติ เพราะมีการแยกพื้นที่สำหรับกักตัวสังเกตอาการ และโรงแรมเพื่อสุขภาพ Movenpick BDMS Wellness Resort Bangkok ก็มีคุณสมบัติพร้อมสำหรับใช้เป็นสถานที่กักตัวทางเลือกด้วย
ส่วนความร่วมมือกับ PING AN HEALTH ที่มีลูกค้ากว่า 200 ล้านรายในปี 62 นั้น คาดว่าจะทำให้ BDMS มีสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยจากจีนเพิ่มขึ้นเป็น 2-6% จาก 1% ในปัจจุบัน โดยมองว่าจะเป็น upside ให้กับ BDMS เนื่องจากลูกค้า 63 ล้านคน หรือ 31% ของ PING AN เป็นลูกค้าที่มีรายได้และสินทรัพย์สูง