(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 41.87 จุดก่อนวันหยุดในสหรัฐ

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนส่งคำสั่งซื้อเข้าหนุนตลาดก่อนที่จะถึงวันหยุดเนื่องในวันชาติสหรัฐ (4 ก.ค.)  นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับข่าวควบรวมกิจการและเข้าซื้อหุ้นของบริษัทหลายแห่ง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่บ่งชี้ว่ายอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐปรับตัวลดลง ได้สกัดดาวโจนส์ไว้ให้ปิดบวกเพียงเล็กน้อย
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับขึ้น 41.87 จุด หรือ 0.31% ปิดที่  13,577.30 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 5.44 จุด หรือ 0.36% ปิดที่ 1,524.87 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 12.65 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 2,644.95 จุด
          ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 765.6 ล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 1.08 พันล้านหุ้น
          นายไมเคิล เชลดอน นักวิเคราะห์จากบริษัทสเปนเซอร์ คล้าก แอลแอลซี กล่าวว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กขานรับข่าวควบรวมกิจการในบริษัทหลายแห่ง โดยเฉพาะข่าวที่ว่าบริษัทคร้าฟท์ ฟู้ดส์ อิงค์ เสนอซื้อกิจการผลิตขนมปังกรอบของบริษัทกรูเป ดาโดเน เอสเอ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอาหารของฝรั่งเศส มูลค่า 7.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และข่าวที่ว่า บริษัทเท็ค โคมินโค เสนอซื้อกิจการบริษัทเออร์ รีซอสเซส ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองทองแดงของแคนาดา มูลค่า 3.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 
          "อย่างไรก็ตาม ข้อมูลยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลง ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวสูงขึ้น ก็เป็นอีกปัจจัยที่สกัดช่วงขาขึ้นของดาวโจนส์เช่นกัน" นายเชลดอนกล่าว
          กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อใหม่ของโรงงานภายในประเทศเดือนพ.ค.ปรับตัวลดลง 0.5% ซึ่งลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน อย่างไรก็ตาม ยอดสั่งซื้อเดือนพ.ค.ปรับตัวลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะร่วงลง 1.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย.
          "ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยคำสั่งซื้อที่ส่งเข้ามาก่อนวันหยุดนั้น ได้ปะทะกับแรงขายทำกำไร อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกในตลาดยังแข็งแกร่งพอที่จะพยุงดัชนีดาวโจนส์ดีดขึ้นปิดในแดนบวกได้" นายเชลดอนกล่าว
          ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านร่วงลงหลังจากสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค.ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 
          ส่วนหุ้นคร้าฟท์ร่วงลง 87 เซนต์ ปิดที่ 34.66 ดอลลาร์ หลังจากมีข่าวว่าบริษัทคร้าฟท์ได้เสนอซื้อกิจการบริษัทเพทิท เดอจูเนอร์ ซึ่งเป็นบริษัทอาหารของยุโรป และซื้อกิจการผลิตขนมขบเคี้ยว มิคาโด จากบริษัทดาโดเน อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นดาโดเน ดีดขึ้น 1.3%
          หุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นเมอร์ริล ลินช์ พุ่งขึ้นกว่า 1% และหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ปรับตัวขึ้น 1% ขณะที่หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.5% 
          นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากสายการบินคอนติเนนตัล แอร์ไลน์รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด โดยหุ้นคอนติเนนตัลพุ่งขึ้น 11.1% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ บวกขึ้น 4.8% และหุ้นยูเอส แอร์เวย์ส ดีดขึ้น 7%