น.ส.วรรณี จันทามงคล เลขานุการ บมจ.โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (HMPRO) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทยอมรับว่ารายได้ปีนี้จะปรับตัวลดลงประมาณ 10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 67,423.88 ล้านบาท และกำไรสุทธิก็น่าจะลดลงจากปีก่อนที่ 6,176.59 ล้านบาทเช่นกัน เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบกับการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการที่ไม่สามารถจำหน่ายสินค้าผ่านหน้าร้านได้จากมาตรการปิดสถานประกอบการชั่วคราวเพื่อควบคุมโรคระบาดฯ ส่งผลทำให้ไม่มียอดขายเข้ามาเป็นระยะเวลาเกือบ 2 เดือน แม้ว่าบริษัทจะปรับกลยุทธ์ไปมุ่งเน้นการขายสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่สัดส่วนยอดขายออนไลน์ก็ยังอยู่ในระดับต่ำ หรือประมาณ 4-5% ของยอดขายโดยรวมเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทได้กลับมาเปิดดำเนินการตามปกติแล้วภายหลังจากที่รัฐบาลได้มีมาตรการคลายล็อกระยะที่ 2 โดยอนุญาตให้มีการเปิดห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ฯ เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.63 โดยหลังจากกลับมาเปิดสาขาตามปกติก็พบว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเป็นอย่างมาก เนื่องจากในช่วงของการล็อกดาวน์คนอยู่บ้านมากขึ้นจึงเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงบ้าน ซึ่งโฮมโปรถือว่าตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ครบทุกรูปแบบทั้งงานบริการและงานขาย
"ในช่วงที่เกิดโควิด-19 เราก็มีการปรับตัวในหลายๆ เรื่อง โดยเรื่องที่สำคัญคือเรื่องของสภาพคล่อง บริษัทก็เตรียมสภาพคล่องเอาไว้รองรับ และการดูแลพนักงาน ซึ่งไม่มีใครติดโควิด-19 เลย รวมถึงเรายังจ่ายค่าจ้างพนักงานปกติ พอหลังเปิดสาขามา เราก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า เห็นได้จากยอดขายช่วงพ.ค.-มิ.ย.63 ที่เรากลับมาเปิด SSSG ก็ยังเป็นบวก"น.ส.วรรณี กล่าว
สำหรับภาพรวมในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทมองว่าแม้ภาพเศรษฐกิจโดยรวมไม่ได้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ HMPRO ก็จะเน้นจับกลุ่มลูกค้าในระดับกลางและบนที่มีกำลังซื้อ และพัฒนาสินค้า Private brand เพื่อรักษาอัตรากำไร (มาร์จิ้น) รวมถึงจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์อย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้มีการจัดงานอีเว้นท์ใหญ่ครั้งแรกหลังจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในไทยเริ่มคลี่คลายลง ภายใต้งาน "โฮมโปร แฟร์ เชียงใหม่" ระหว่างวันที่ 3-12 ก.ค. ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและของตกแต่งบ้าน เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายสินค้าในช่วงต้นไตรมาส 3/63 เบื้องต้นก็คาดว่าจะสามารถทำยอดขายภายในงานได้กว่า 100 ล้านบาท
ส่วนแผนการขยายสาขาในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงมองการขยายสาขาในไทยอย่างต่อเนื่อง หากมีพื้นที่ที่เหมาะสม และอยู่ระหว่างศึกษาการขยายสาขาไปในประเทศเวียดนาม
น.ส.วรรณี กล่าวว่า ด้านผลการดำเนินงานสาขาโฮมโปรประเทศมาเลเซีย ขณะนี้ได้กลับมาเปิดดำเนินการแล้ว หลังปิดสาขาชั่วคราวเป็นเวลา 2 เดือนจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พบว่ายอดขายเติบโตดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกำลังซื้ออั้นมาในช่วงล็อกดาวน์ประเทศ แต่อย่างไรก็ตามภาพรวมยังคงขาดทุนแต่ทิศทางเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น