หุ้น DELTA ราคาพุ่งขึ้น 11.15% มาอยู่ที่ 77.25 บาท เพิ่มขึ้น 7.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 247.68 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.15 น. โดยเปิดตลาดที่ 69.75 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 77.25 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 69.50 บาท
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯปรับคำแนะนำหุ้นบมจ.เดลต้า อิเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย)(DELTA) ขึ้นเป็น "ซื้อ" อิงราคาเหมาะสม สิ้น ปี 2564 ที่ 74.50 บาทต่อหุ้น ราคาหุ้นปัจจุบันให้ปันผลราว 3% พร้อมการเติบโตในยุค 5G และซื้อขายที่ PER64 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวทำให้ยังอยู่ในระดับที่ลงทุนได้ จึงเลือก DELTA เป็นตัวเลือกเด่นที่สุดของกลุ่ม Electronic เช่นเดิม เชิงกลยุทธ์ระยะสั้นเนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นร้อนแรงในวันศุกร์ นักลงทุนอาจรอสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว
ทั้งนี้ คาดกำไรปกติไตรมาส 2/63 ที่ 1.0 พันล้านบาท (+73% QoQ, +7% YoY) กำไรที่ฟื้นตัวทั้ง QoQ และ YoY หนุนจากยอดขายในรูปสกุลดอลลาร์สหรัฐ ที่คาดเติบโต 10% QoQ แม้เจอภาวะ โควิด-19 และอัตราการทำกำไรที่ดีขึ้นตามค่าเงินบาท/ดอลลาร์ ที่อ่อนค่า สรุปสาระสำคัญดังนี้
1) คาดรายได้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ 446 ล้านเหรียญ (+10.0% QoQ, +1.3% YoY) หนุนจากสินค้ากลุ่ม Data Center ที่มีคำสั่งซื้อจำนวนมากหลังเกิดเหตุการณ์ โควิด-19 ทำให้ลูกค้าตื่นตัวต่อการลงทุนด้าน IT นอกจากนี้การกีดกันทาง Technology ระหว่างจีนและสหรัฐที่ลากยาว ทำให้บริษัทสหรัฐบางส่วนเริ่มส่งคำสั่งซื้อให้ DELTA มากขึ้น 2) คาดอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น QoQ ที่ 22.0% (+161 bps QoQ, +208 bps YoY) หนุนจากค่าเงินบาท/ดอลลาร์ เฉลี่ยที่ 31.96 อ่อนค่า 2.2% QoQ และ 1.1% YoY และต้นทุนการขนส่งสินค้าที่ลดลง 3) คาด SG&A อยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท (+11% QoQ, +6% YoY) สูงจากค่าลิขสิทธิ์จ่าย โดย DELTA จะรายงานงบการเงินในวันที่ 24 ก.ค. 2563
หากกำไรออกมาตามคาด กำไรปกติในช่วงครึ่งปีแรก จะคิดเป็น 62% ของประมาณการกำไรทั้งปี 2563 ที่ 2.6 พันล้านบาท ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลัง กำไรยังมีแนวโน้มเติบโต HoH หนุนจากสินค้ากลุ่ม EV Car และ Power Supply ในตลาด 5G ทำให้ประมาณการของหยวนต้าฯต่ำเกินไปอย่างมีนัยสำคัญ
อีกทั้งการลงทุน 5G ที่จะเริ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 2564 ไปอีกอย่างน้อย 2-3 ปีข้างหน้า จะเป็นปัจจัยสำคัญหนุนการเติบโตของยอดขาย DELTA ในระยะถัดไป จากสินค้าของ DELTA กว่า 70% เป็น Data Center และ Power Supply ที่ใช้ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 5G ขณะที่โครงสร้างธุรกิจที่เป็นลักษณะ B2B ซึ่งอิงกับการลงทุนของเอกชน IT ชั้นนำขนาดใหญ่ทำให้ความผันผวนของยอดขายต่ำกว่าสินค้าประเภท Consumer Electronic และสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างรถยนต์ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
พร้อมปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 2563-64 ขึ้น 44% และ 8% เป็น 3.8 พันล้านบาท (25% YoY) และ 4.7 พันล้านบาท (+23% YoY) จากปรับเพิ่มสมมติฐานยอดขายในรูปดอลลาร์สหรัฐ จากลดลง 5% YoY เป็นเติบโต 3% YoY และปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 20.4% จาก 19.6%
นอกจากนี้ปรับเพิ่มสมมติฐาน Payout Ratio จาก 56% (ค่าเฉลี่ยปี 2560-61) เป็น 65% หลังสัดส่วนการถือหุ้นที่มากขึ้นของ DELTA Taiwan ทำให้ payout ratio มีโอกาสถูกปรับขึ้น (ปี 2562 DELTA จ่าย payout ratio ที่ 76%) สุทธิแล้วจึงคาด EPS ปี 2563-64 ที่ 2.0 และ 2.4 บาทต่อหุ้น คิดเป็น yield ที่ 2.8% และ 3.5% ตามลำดับ