นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บมจ. ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเร่งขยายการติดตั้งตู้จำหน่ายน้ำมันอัตโนมัติ ซึ่งตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย.63 มีการกระจายไปแล้วกว่า 100 ตู้จากแผนเพิ่มจุดติดตั้งตู้ทั้งหมดในปีนี้ 1,000-2,000 จุด ซึ่งคาดว่าจะมียอดขายให้กับบริษัทฯ ประมาณเดือนละ 2 ล้านลิตรต่อเดือน โดยตู้จำหน่ายน้ำมันอัตโนมัติยังเป็นการดำเนินงานอยู่ในรูปแบบของธุรกิจตัวแทนเช่นเดียวกับสินค้าอื่นๆ
ทั้งนี้ ตู้จำหน่ายน้ำมันอัตโนมัติที่ให้บริการมีระบบหัวจ่ายน้ำมันอัตโนมัติ (Automatic Nozzle) มาตรฐานเดียวกับปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ เนื่องจากบริษัทฯเป็นผู้กำหนดวัสดุในการผลิตทั้งหมด ประกอบกับการใช้เทคโนโลยีการตรวจสอบปริมาณน้ำมันแบบเรียลไทม์ที่มีการวัดตวงปริมาณที่ได้มาตรฐาน และจุดติดตั้งแต่ละจุดมีการดูแลที่ได้มาตรฐานจากตัวแทนของบริษัท รวมถึงน้ำมันที่ให้บริการในตู้จำหน่ายมาจากสถานีบริการน้ำมันชั้นนำ จึงมั่นใจได้ว่าเครื่องยนต์จะปลอดภัยหลังจากการใช้บริการ
"การกระจายตู้จำหน่ายน้ำมันอัตโนมัติยังคงวัตถุประสงค์หลักในการเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับชุมชน และหมู่บ้านในต่างจังหวัดที่ไม่สะดวกในการเดินทาง หรือห่างไกลจากสถานีบริการน้ำมัน แต่มีความต้องการใช้น้ำมันสำหรับยานยนต์หรือเครื่องมือทางการเกษตร โดยบริษัทฯ อาศัยจุดแข็งด้านเครือข่ายตัวแทนทั่วประเทศกว่า 150 ราย สามารถเข้ากระจายจุดติดตั้งและเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีและทำได้ตามแผนที่วางไว้"นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว
การดำเนินงานดังกล่าวเป็นการพัฒนาศักยภาพทางด้านเทคโนโลยีของบริษัทที่สามารถเพิ่มซอฟต์แวร์และผลิตสินค้าได้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจตู้อัตโนมัติ (Vending Machine) ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในปัจจุบันที่เน้นการบริการตัวเอง (Self Service) ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการนำเสนอสินค้าออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ามากที่สุด อาทิ ตู้จำหน่ายเครื่องดื่ม ตู้ขายสินค้าอุปโภคบริโภค EV Charger และตู้ขายกาแฟสดที่ทยอยติดตั้งแล้ว โดยสินค้าในกลุ่มนี้จะเป็นรายได้อีกหนึ่งช่องทางของบริษัทฯ ในปีนี้ นอกเหนือจากธุรกิจให้บริการเติมเงิน (ตู้บุญเติม) และธุรกิจบริการทางการเงินจากการเป็นตัวแทนธนาคาร (Banking Agent) ที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกไตรมาส ปัจจุบันมีการเติบโตของจำนวนครั้งในการโอนเงินเฉลี่ยต่อไตรมาสอยู่ที่ร้อยละ 20
นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันชะลอตัว แต่บริษัทคาดว่าในไตรมาส 3/63 ยอดเติมเงินและรายได้จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ใกล้เคียงกับไตรมาสแรกของปี ทั้งนี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นสร้างรายได้เพื่อต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และคงนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมาบริษัทจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 80% ของกำไรสุทธิ คิดเป็นอัตราส่วนเงินปันผลต่อราคาหุ้นอยู่ที่ประมาณ 10% และยังคงการจ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้งเช่นเดิม โดยปีที่ผ่านมาที่มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแทนการจ่ายเงินปันผลประจำปี 62 ในอัตราหุ้นละ 0.66 บาท งวดแรก 0.32 บาท เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2562 และ 0.34 บาท วันที่ 9 เม.ย.63 ที่ผ่านมา
ขณะที่บริษัทจะเน้นการเพิ่มอัตราการเติบโตในธุรกิจบริการทางการเงินและธุรกิจอื่น ๆ ควบคู่ไปกับการรักษาอัตราการเติบโตของธุรกิจให้บริการเติมเงินที่อาจจะมองว่าโดนดิสรัปชั่น ทั้งนี้ การเพิ่มสินค้าและบริการต่าง ๆ นอกจากจะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าแล้ว เชื่อว่าจะเป็นส่วนผลักดันให้บริษัทมีอัตราการเติบโตของรายได้ที่ดีและสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นเช่นเดียวกับที่ผ่านมา