นายสมชัย ว่องอรุณ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.สตาร์ ซานิทารีแวร์ (STAR) กล่าวว่า ในปีนี้เชื่อว่าจะมีกำไรดีกว่าปีก่อนที่มีกำไรกว่า 10 ล้านบาท เนื่องจากการที่บริษัทได้มีการปรับในการเจาะกลุ่มลูกค้าในประเทศเป็นระดับกลางถึงบนจากเดิมที่จะเจาะลูกค้าระดับกลางซึ่งทำให้สามารถปรับราคาขายชุดสุขภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้นเป็น 9,000 บาท จากราคาเฉลี่ย 3,500 บาท ขณะที่ชุดสุขภัณฑ์ที่ส่งไปต่างประเทศโดยเฉพาะยุโรปก็เติบโตและมีราคาสูงประมาณ 40,000 บาท ซึ่งบวกค่าขนส่งแล้ว ทำให้กำไรดี
จากกำไรที่คาดว่าจะเติบโตทำให้มีความสามารถที่จะล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ประมาณ 50 ล้านบาทได้ แต่มองว่าการล้างขาดทุนสะสมจะเห็นในปีหน้า และสามารถจ่ายปันผลได้ในปีหน้าเช่นกัน ซึ่งการล้างขาดทุนสะสมจะนำกำไรมาล้างทั้งจำนวน
ส่วนรายได้ในไตรมาส 2/50 เชื่อว่าจะดีกว่าไตรมาส 2/49 จากการที่บริษัทได้มีการปรับผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับผู้บริโภคซึ่งส่งผลให้ยอดขายปรับสูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งภายในเดือนนี้บริษัทจะมีการออกสินค้าใหม่ซึ่งเป็นชุดสุขภัณฑ์ที่เดิมจะส่งไปขายในต่างประเทศโดยจะปรับเป็นขายในประเทศด้วย ซึ่งสุขภัณฑ์ดังกล่าวได้รับความสนใจในต่างประเทศ โดยคาดว่าจะออกผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ในต้นเดือนหน้า ซึ่งจะทำให้ยอดขายเติบโต
นอกจากนี้ การที่บริษัทได้แรงงานคนลาวและคนงาน 60 คน และจะเพิ่มอีก 60 คน ในไตรมาส 4 ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มสูงขึ้นซึ่งจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นด้วย และเพื่อรองรับออร์เดอร์ที่เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ไม่สามารถทำตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่งเพราะคนงานไม่พอ ดังนั้นเชื่อว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโต 45% หรือ 300 ล้านบาท ซึ่งเติบโตกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 215 ล้านบาท
นายสมชัย กล่าวต่อว่า ปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าบริษัทไม่ได้รับผลกระทบถึงแม้จะมีสัดส่วนส่งออกกว่า 70% เนื่องจากอิงในสกุลดอลลาร์ไม่ถึง 10% ขณะที่ส่งออกที่เหลือเป็นเงินสกุลยูโร และปอนด์ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเป็นเงินสกุลดอลลาร์แต่ก็ได้มีการประกันความเสี่ยงล่วงหน้า 6-12 เดือนไว้แล้ว ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนมาก
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/จำเนียร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--