นายประเวช องอาจสิทธิกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานกำกับดูแลผู้ประกอบการธุรกิจหลักทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คาดว่า จะได้ข้อสรุปการจัดสรรวงเงินลงทุนในต่างประเทศที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้ขยายเพดานจาก 6.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายใน 2 สัปดาห์ โดยจะกระจายให้ครอบคลุมนักลงทุนทุกประเภท เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยได้มีทางเลือกหาผลตอบแทนทั้งจากตลาดทุนและตลาดตราสารหนี้ในต่างประเทศ
"คิดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า ...สิ่งหนึ่งจะให้มีความยืดหยุ่นให้ครอบคลุมมากขึ้น ปรับหลักเกณฑ์เพื่อผู้ที่ต้องการลงทุนต่างประเทศ ไม่เป็นอุปสรรคที่จะได้อัตราผลตอบแทน ผู้ลงทุนก็ควรจะต้องมีความรู้ดี" นายประเวช กล่าว
นายประเวช กล่าวว่า การผ่อนคลายหลักเกณฑ์จะให้บุคคลธรรมดาสามารถลงทุนในตลาดต่างประเทศโดยผ่านบริษัทหลักทรัพย์ โดยจะมีการพิจารณาวงเงินที่จะให้ลงทุนอีกครั้ง นอกเหนือจากการให้กองทุนส่วนบุคคลลงทุนในต่างประเทศผ่านบริษัทจัดการกองทุนรวม หรือสถาบันการเงินที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล
นอกจากนี้จะเปิดโอกาสให้สมาคม และมูลนิธิต่างๆ ที่ได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำจากการฝากเงินกับธนาคาร ให้มีโอกาสเลือกลงทุนต่างประเทศแทน โดยอาจจะกำหนดวงเงินไม่เกิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ
นายประเวช กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ที่ ก.ล.ต.จัดสรรเงินทุนไปลงทุนต่างประทศ แบ่งเป็นกองทุนส่วนบุคคล 3 พันล้านบาท และจำนวน 3.8 พันล้านบาทที่เตรียมให้กับ บลจ.ที่สนใจลงทุนต่างประเทศขอขยายวงเงินเพิ่มมากกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งหมดนี้ได้ยกเลิกและรอการจัดสรรใหม่
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--