นายธีรชัย ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอื้อวิทยา (UWC) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งสำคัญด้วยการตัดขายธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก (Non Core) โดยบริษัทจะมุ่งเน้นธุรกิจเกี่ยวกับไฟฟ้าและเสาโทรคมนาคม ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์กว่า 53 ปี เพื่อให้ผลประกอบการพลิกฟื้นกลับมามีกำไรให้ได้เร็วที่สุด
บริษัทได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นโรงไฟฟ้าชีวมวลกับ บมจ.แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ (ACE) เพื่อขายโรงไฟฟ้า จำนวน 3 โรง ประกอบด้วย บริษัท ยูดับบลิวซี โกเมน ไบโอแมส จำกัด จังหวัดนครราชสีมา กำลังการผลิต 9.9 MW บริษัท ยูดับบลิวซี อำพัน ไบโอแมส จำกัด จังหวัดบุรีรัมย์ กำลังการผลิต 9.5 MW และบริษัท สตึก ไบโอแมส จำกัด จังหวัดบุรีรัมย์ กำลังการผลิต 7.5 MW โดยทั้ง 3 โรง มีกำลังการผลิตรวม 26.9 MW ในราคารวม 851 ล้านบาท โดยจะนำเสนอให้ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นอนุมัติในวันที่ 20 ส.ค.63 และจะทำการซื้อขายเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 21 ส.ค.63
การขายโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้ง 3 แห่งนี้จะทำให้บริษัทสามารถลดภาระการค้ำประกันเงินกู้ของโรงไฟฟ้าที่มีกับธนาคารกว่า 320 ล้านบาท และจะสามารถนำเงินที่ได้จากการขายไปชำระคืนหุ้นกู้ จำนวน 300 ล้านบาท โดยจะเป็นการไถ่ถอนก่อนกำหนด ซึ่งจะทำให้บริษัทประหยัดดอกเบี้ยจ่ายเกือบ 10 ล้านบาท นอกจากนี้ จะทำให้บริษัทมีภาระหนี้สินและต้นทุนทางการเงินที่ลดลง รวมทั้งจะทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ลดลงจาก 3.38 เท่า เหลือเพียง 1.74 เท่า ส่งผลให้ฐานะการเงินและสภาพคล่องของบริษัทดีขึ้น
การจำหน่ายโรงไฟฟ้าทั้ง 3 โรงในครั้งนี้ เป็นการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ โดยบริษัทได้หยุดการดำเนินธุรกิจที่ไม่สร้างผลกำไรตั้งแต่ปี 62 เป็นต้นมา อาทิ ธุรกิจพืชพลังงาน และก๊าซชีวภาพ ธุรกิจโรงไม้สับในกัมพูชา จนถึงการขายโรงไฟฟ้าชีวมวลทั้ง 3 แห่งในครั้งนี้ หลังจากนี้บริษัทจะสร้างการเติบโตและผลกำไรโดยเร็วที่สุด จากการมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับระบบส่งไฟฟ้าและเสาโทรคมนาคมในต่างประเทศ ซึ่งจะสร้างรายได้และกำไรให้กับบริษัทได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว