(เพิ่มเติม) GLOW คาดกำไรสุทธิปี 50 ใกล้เคียงปีก่อน 5.6 พันลบ./ยื่นประมูล IPP 2 โรง

          บมจ.โกลว์พลังงาน (GLOW) คาดกำไรสุทธิปี 50 ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มี 5.6 พันล้านบาท  และคาดว่ากำไรสุทธิจากนี้ไปจนถึงปี 52 ก็จะไม่แตกต่างกันมากนัก เนื่องจากบริษัทไม่มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตในช่วง 3 ปีนี้ แต่คาดว่ากำไรสุทธิจะเริ่มดีขึ้นในปี 53 เมื่อการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าในโครงการโรงไฟฟ้าเอสพีพีอีก 115 เมกะวัตต์ จะเริ่มเดินเครื่องและรับรู้รายได้ในปีดังกล่าว  
          ขณะที่กำไรสุทธิในไตรมาส 2/50 คาดว่าจะต่ำกว่าไตรมาส 2/49 ที่มีกำไรสุทธิ 1.2 พันล้านบาท เนื่องจากในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมามีการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า เพื่อปรับปรุงและเปลี่ยนอุปกรณ์ ระยะเวลา 25 วัน ทำให้รายได้หายไป 
          "กำไรปีนี้ไม่น่าจะแตกต่างกันมากจากปีที่แล้ว เพราะเราไม่มีกำลังการผลิตใหม่เพิ่ม และปิดซ่อมโรงไฟฟ้าไอพีพี 25 วัน แต่ปีก่อนไม่มีการปิดซ่อม" นายสุทธิวงศ์ คงสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงิน GLOW กล่าวกับ"อินโฟเควสท์" 
          นอกจากนี้ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นก็มีผลต่อความสามารถทำกำไรของบริษัท โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นทุก 1% ส่งผลกระทบต่อกำไรลดลง 1% อย่างไรก็ดี บริษัทประมาณการเมื่อต้นปีค่าเงินบาทจะอยู่ที่ประมาณ  34 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ขณะนี้ค่าเงินบาทอยู่ทีประมาณ  34.40 บาท/ดอลลาร์  แต่คิดว่าคงไม่แข็งค่ามากกว่านี้
          นายสุทธิวงศ์ กล่าวว่า ปีนี้คาดว่าอัตราการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทจะไม่มากเท่าปีก่อนที่แข็งค่าจากระดับ 40 บาท/ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 36 บาท/ดอลลาร์ หรือแข็งค่าขึ้นประมาณ 4 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ปีนี้เงินบาทอยู่ระหว่างกว่า 35.00 บาท/ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 34.40 บาท/ดอลลาร์ หรือประมาณไม่ถึง 2 บาท/ดอลลาร์ 
          ขณะที่รายได้ของบริษัทขณะนี้ยังประเมินยากเพราะราคาขายของบริษัทได้รวมไปกับค่าเชื้อเพลิง ซึ่งแนวโน้มราคาก๊าซและถ่านหินได้ปรับตัวสูงขึ้น 
**ยื่นประมูล IPP 2 โรง
          นายสุทธิวงศ์ กล่าวว่า การเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้าไอพีพี บริษัทได้เข้ายื่นประมูลไป 2 โรง ๆ ละ 700 เมกะวัตต์ โดยเป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง และ ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง อย่างละ 1 โรง ซึ่งคาดหวังจะชนะประมูลอย่างน้อยได้ 1 โรง หากชนะการประมูล 1 โรงขนาดกำลังผลิต 700 เมกะวัตต์ จะใช้เงินลงทุนราว 3.5 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทมีแผนจะใช้เงินทุนจากเงินกู้สถาบันการเงิน
          และโครงการโรงไฟฟ้าไอพีพีจะทราบผลประมูลปลายปีนี้ กว่าจะลงนามซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ก็คงราวประมาณกลางปี  บริษัทจึงคาดว่าจะเกิดการลงทุนในช่วงครึ่งหลังปี 51 หากชนะประมูล
          วันนี้ GLOW แจ้งข้อมูลว่าบริษัทได้เข้าลงทุนในบริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับ บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ)เพื่อลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ในเบื้องต้นร่วมทุนฝ่ายละ 50% แต่หากประมูลได้ GLOW จะเพิ่มสัดส่วนเป็น 60-65%  
          "โครงการไอพีพีที่ใช้ถ่านหิน กับ ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง มันยากด้วยกันทั้งคู่ โดยในส่วนถ่านหินมีเรื่องสิ่งแวดล้อมที่เราจะต้องทำความเข้าใจกับชุมชนต้องดูแลเป็นพิเศษ แต่คู่แข่งน้อย ส่วนที่ใช้ก๊าซ จะมีความยากที่มีคู่แข่งสูง  และ การที่จับมือกับเหมราชเพราะเขาเคยชนะการประมูลไอพีพี และมีที่ดินพร้อม ซึ่งจะมีอะไรได้เปรียบ"นายสุทธิวงศ์ กล่าว