นางพเยาว์ มริตตนะพร กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ(BECL)คาดว่าจะออกหุ้นกู้ 7.5 พันล้านบาทอีกล็อตที่เหลือหลังบริษัทได้ปรับขึ้นค่าผ่านทางด่วนในเดือน ก.ย.51 เพื่อให้สามารถเสนอขายหุ้นกู้ในวงกว้างขึ้น โดยเน้นขายให้นักลงทุนสถาบันต่างประเทศ จากหุ้นกู้ล็อตปัจจุบันที่จะออกในเดือนหน้า ซึ่งเสนอขายให้เฉพาะนักลงทุนในประเทศ
การที่บริษัทไม่ได้รับอนุญาตให้ปรับขึ้นค่าผ่านทางตามที่กำหนดไว้ในสัญญา ทำให้นักลงทุนต่างประเทศขาดความเชื่อมั่นในความสามารถการหารายได้ของบริษัท ดังนั้น จึงเห็นว่าหากจะออกหุ้นกู้รอบใหม่ก็จะคงต้องรอให้มีการปรับขึ้นค่าผ่านทางให้ได้ก่อน และอาจกำหนดวงเงินหุ้นกู้สูงกว่าแผนก็เป็นได้ เนื่องจากได้รับอนุมัติวงเงินไว้ถึง 3.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะต้องพิจารณาความเหมาสมอีกครั้ง
"ขณะนี้บริษัทได้รับคำถามเรื่องค่าผ่านทางมากในระหว่างออกโรดโชว์ เพราะฉะนั้นตัวปรับค่าผ่านทางจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราสามารถออกบอนด์ได้เต็มที่ ซึ่งอาจจะออกมากกว่า 7.5 พันล้านบาท ถึงตรงนั้นค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้ในแผนยังเป็น 7.5 พันล้านบาท" นางพเยาว์ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
แผนออกหุ้นกู้ล็อตแรก 7.5 พันล้านบาทเพื่อนำมาชำระหนี้เดิม จะเริ่มเปิดให้จองซื้อตั้งแต่ 16 ก.ค.- 1 ส.ค.50 โดยชุดแรก เป็นหุ้นกู้อายุ 3 ปี วงเงิน 2 พันล้านบาท กรีนชู 1 พันล้านบาท ให้อัตราดอกเบี้ย 4.20% ต่อปี
ส่วนชุดที่ 2 เป็นหุ้นกู้อายุ 5 ปี วงเงิน 2 พันล้านบาท มีกรีนชู 1 พันล้านบาท และ ชุดที่ 3 เป็นหุ้นกู้อายุ 7 ปี วงเงิน 500 ล้านบาท กรีนชู 1 พันล้านบาท ซึ่งหุ้นกู้ทั้งสองชุดจะเปิดจองซื้อพร้อมกัน หลังจากกำหนดอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 23 ก.ค.นี้ เบื้องต้นบริษัทคาดว่าจะได้อัตราดอกเบี้ยใกล้เคียง 5% ซึ่งก็ยังรับได้ เพราะคาดว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้(MLR)จะมีแนวโน้มขาขึ้น
นางพเยาว์ กล่าวว่า เหตุที่ไม่รีบออกหุ้นกู้ให้ครบทั้ง 1.5 หมื่นล้านบาทภายในปีนี้ แม้ว่าจะอยู่ในช่วงดอกเบี้ยขาลง เนื่องจากการนำเงินจากการออกหุ้นกู้ไปชำระคืนหนี้ก่อนกำหนด มีค่าใช้จ่ายต้องเสียค่าธรรมเนียม 3% จึงเห็นว่าน่าจะทยอยบันทึกค่าใช้จ่ายส่วนนี้
ประกอบกับ บริษัทต้องการออกหุ้นกู้ระยะยาว 7 ปีมากกว่าระยะสั้น แต่ตลาดหุ้นกู้ในประเทศไม่ค่อยนิยมลงทุนในหุ้นกู้ระยะยาว จึงขอรอจังหวะที่จะออกขายให้กับนักลงทุนต่างประเทศดีกว่า
นางพเยาว์ กล่าวว่า ขณะนี้หุ้นกู้อายุ 3 ปีได้รับการตอบที่ดี โดยคาดว่าจะมีความต้องการจองซื้อเข้ามาเกินประมาณ 2 เท่าของวงเงิน 2 พันล้านบาท ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่บริษัทอาจปรับสัดส่วนประเภทอายุหุ้นกู้ที่จะเสนอขายใหม่ โดยลดสัดส่วนหุ้นกู้อายุ 7 ปีลง และเพิ่มวงเงินหุ้นกู้อายุ 3 ปี และ 5 ปี ให้มากขึ้น
ทั้งนี้ หุ้นกู้อายุ 3 ปีได้ให้ธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นที่ปรึกษาออกกรีนชูที่สำรองไว้ 1 พันล้านบาทนำออกมาจำหน่ายเพิ่ม
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--