ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 90 จุดเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวควบรวมกิจการและเข้าซื้อของบริษัทบางแห่ง และผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทเมิร์ก แอนด์ โค ซึ่งปัจจัยบวกเหล่านี้ช่วยให้ตลาดฟื้นตัวขึ้นหลังจากถูกกดดันจากความกังวลเรื่องธุรกิจปล่อยกู้จำนองประเภทซับไพร์มในสหรัฐ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 92.34 จุด หรือ 0.67% ปิดที่ 13,943.42 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 7.47 จุด หรือ 0.49% ปิดที่ 1,541.57 และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 2.98 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 2,690.58 จุด
ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่หนาแน่นถึง 1.52 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 17 ต่อ 16 ขณะที่ปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.05 พันล้านหุ้น
ตลาดหุ้นนิวยอร์กฟื้นตัวขึ้นหลังจากมีข่าวว่าบริษัททรานส์โอเชียน ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาะขุดเจาะนอกชายฝั่งรายใหญ่สุดของโลก และบริษัทโกลบอลซานตาเฟ ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่ง เปิดเผยว่า ทั้งสองบริษัทตกลงควบรวมกิจการกัน ซึ่งการควบรวมกิจการครั้งนี้จะมีมูลค่าตลาด 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ตลาดยังขานรับข่าวที่ว่าบริษัทยูไนเต็ด เรนทัลส์ ซึ่งเป็นบริษัทเช่าซื้ออุปกรณ์รายใหญ่ของสหรัฐ ได้ตอบรับข้อเสนอซื้อกิจการจากบริษัทเซอร์เบรัส แคปิตอล เมเนจเมนท์ ด้วยเงินสดมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ และข่าวที่ว่าธนาคารบาร์เคลย์สของอังกฤษจะเพิ่มข้อเสนอซื้อกิจการธนาคารเอบีเอ็น แอมโร โฮลดิ้ง เอ็นวี เป็นมูลค่า 9.32 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อตัดหน้าคู่แข่งรายอื่นๆ
ขณะเดียวกัน ตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงถึง 90 เซนต์ แตะที่ระดับ 74.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากกระแสคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) อาจตัดสินใจเพิ่มเพดานการผลิต
นายเท็ด อารอนสัน นักวิเคราะห์จากบริษัทอารอนสัน จอห์นสัน โอติสกล่าวว่า "ข่าวควบรวมกิจการและผลประกอบการที่สดใสเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจำนวนหนึ่งกำลังสังเกตุการณ์สถานการณ์ในตลาดอย่างรอบคอบ เพราะเกรงว่าตลาดอาจจะฟื้นตัวเพียงชั่วคราวเนื่องจากยังมีความกังวลเรื่องธุรกิจปล่อยกู้จำนองประเภทซับไพร์มในสหรัฐ"
"ตลาดฟื้นตัวขึ้นในยามที่ไม่มีข้อมูลเศรษฐกิจใหม่ๆเข้ามาชี้นำ เนื่องจากนักลงทุนให้หันไปให้น้ำหนักกับข่าวควบรวมกิจการและรายงานผลประกอบการ" นายอารอนสันกล่าว
ทั้งนี้ หุ้นทรานส์โอเชียนพุ่งขึ้น 5.5% และหุ้นโกลบอลซานตาเฟทะยานขึ้น 4.8% จากข่าวที่ว่าทั้งสองบริษัทตัดสินใจควบรวมกิจการกัน ขณะที่หุ้นยูไนเต็ด เรนทัลส์ดีดขึ้น 61 เซนต์ ปิดที่ 32.98 ดอลลาร์ จากข่าวที่ว่าบริษัทยูไนเต็ด เรนทัลส์ ตอบรับข้อเสนอซื้อกิจการจากบริษัทเซอร์เบรัส แคปิตอล เมเนจเมนท์ ด้วยเงินสดมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์
ส่วนหุ้นเมิร์ก แอนด์ โค พุ่งขึ้น 3.31 ดอลลาร์ ปิดที่ 52.33 ดอลลาร์ หลังจากบริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 12% ซึ่งดีที่สุดในบรรดาหุ้นกลุ่ม 30 ตัวที่นำมาคำนวณในดัชนีดาวโจนส์ ขณะที่หุ้นอเมริกัน เอ็กเพรสดีดขึ้น 15 เซนต์ แตะระดับ 64.66 ดอลลาร์ หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาด
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--