โบรกเกอร์แนะนำ"ซื้อ"หุ้นธนาคารทหารไทย (TMB) ขานรับผลประกอบการไตรมาส 2/63 เติบโตเกินคาดหลังรวมงบการเงินธนาคารธนชาต (TBANK) เข้ามาเป็นปีแรก ทำให้แนวโน้มกำไรลุ้นผ่านพ้นจุดต่ำสุดหลังบันทึกตั้งสำรองหนี้ทั้งหมดรองรับหุ้นกู้ บมจ.การบินไทย (THAI) 1.6 พันล้านบาทไปแล้ว พร้อมปรับโครงสร้างหนี้ขาย NPLs ไปบางส่วน หวังเศรษฐกิจพลิกฟื้นตัวในครึ่งปีหลังช่วยกระตุ้นรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น รวมถึงผลบวกการ Synergy กับ TBANK
ขณะที่หลายโบรกฯ ยังเฝ้าระมัดระวังปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า จากผลกระทบโควิด-19 ลากยาว แนะจับตาประมาณการรอบใหม่จากนัดประชุมนักวิเคราะห์เร็วๆ นี้
พักเที่ยงราคาหุ้น TMB อยู่ที่ 1.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท หรือ 0.96% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ปรับขึ้น 0.90%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) ไทยพาณิชย์ ซื้อ 1.20 ดีบีเอสฯ ซื้อ 1.15 ฟิลลิปฯ ซื้อ 1.30 ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบีฯ ซื้อ 1.16 ทิสโก้ ซื้อ 1.25 ทรีนีตี้ ซื้อ 1.28 บัวหลวง ซื้อ 1.35 หยวนต้าฯ ซื้อเก็งกำไร 1.14
นางสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยฯ มีมุมมองเชิงบวกกับหุ้น TMB ที่มีต่อผลประกอบการไตรมาส 2/63 เนื่องจากมีการเติบโตมากกว่าที่ฝ่ายวิจัยฯประมาณการโดย TMB มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 26% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า นับว่าสูงกว่าที่ฝ่ายวิจัยฯประเมินที่ 2.6 พันล้านบาท เป็นผลจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่ำกว่าคาด และบางส่วนถูกชดเชยจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่น้อยกว่าประมาณการ เช่นเดียวกับตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs ratio) ลดลงมาเป็น 2.34% หลังจากธนาคารปรับโครงสร้างหนี้และตัดขาย NPLs ไปบางส่วน
"ถ้านำงบไตรมาส 2/63 เอามาวิเคราะห์เรียกว่าดีกว่าที่เราคาดการณ์นับเป็นอัพไซด์ได้ในช่วงนี้ แต่หากประเมินแนวโน้มระยะถัดไปต้องรอความชัดเจนของข้อมูลหลังจากที่ประชุมนักวิเคราะห์ที่เตรียมเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ ยอมรับว่าก็เฝ้าระมัดระวังความเสี่ยงจากตัวแปรหลักคือภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญหลังจากได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ดังนั้น รอติดตามว่าหากได้รับข้อมูลที่แท้จริงแล้วจะต้องมาทบทวนประมาณการใหม่อีกหรือไม่ ทำให้คำแนะนำ BUY ช่วงนี้ยังเป็นเวอร์ชั่น Under Review หรือเป็นคำแนะนำก่อนทบทวนประมาณการรอบใหม่"นางสาวอาภาภรณ์ กล่าว
บทวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า เมื่อนำงบการเงินไตรมาส 2/63 มาประเมินเบื้องต้นฝ่ายวิจัยฯ ยังคงประมาณการกำไรปี 63 ของ TMB อยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 109.5% จากปีก่อน นับเป็นธนาคารที่มีกำไรเติบโตโดดเด่นมากที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ด้วยกัน
"สำหรับกำไรของ TMB ที่เพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับปีก่อนเป็นผลจากการรวมงบกับธนาคารธนชาต (TBANK) เข้ามาด้วย ส่งผลให้รายได้ทุกประเภทเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ"บล.ฟิลลิปฯ ระบุ
ด้าน บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/63 ของ TMB ได้ตั้งอัตราการสำรองหนี้สูญสูงกว่าคาดเล็กน้อย เพื่อรองรับกับผลกระทบคาดการณ์หนี้สูญในการลงทุนหุ้นกู้การบินไทยมูลค่า 1.6 พันล้านบาท แต่ผลกำไรยังเติบโตได้ตามคาด ดังนั้น อยู่ระหว่างติดตามว่าอัตราการสำรองหนี้จะเพิ่มในครึ่งปีหลังมากน้อยอย่างไรตามผลกระทบจากการสิ้นสุดการพักชำระหนี้และมาตรการช่วยเหลือลูกค้าตามนโยบายรัฐบาล
สำหรับมุมมองผ่าน บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุว่า แม้ว่ากำไรของ TMB ในครึ่งปีแรกคิดเป็น 56.3% จากประมาณการทั้งปี แต่ฝ่ายวิจัยฯก็ยังคงประมาณการไว้เช่นเดิม เพราะส่วนหนึ่งเกิดจากการรวมงบการเงินของ TBANK เข้ามาเป็นปีแรก อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไรของ TMB ในช่วงไตรมาส 2/63 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี และคาดกำไรไตรมาส 3/63 มีแนวโน้มที่จะเติบโตดีขึ้น หลังรายได้ค่าธรรมเนียมฟื้นตัวตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นหลังปลดล็อกดาวน์ประเทศ และการตั้งสำรองที่จะผ่อนคลายลงหลังตั้งสำรองกรณีถือหุ้นกู้บริษัทการบินไทยไปหมดแล้วในไตรมาส 2/63
"แม้เรามองบวกต่อ TMB หลังปรับโครงสร้างรวมงบการเงินกับ TBANK คาดจะมี Synergy ให้เห็นมากขึ้นตามลำดับ แต่ด้วยราคาหุ้นปัจจุบันปรับขึ้นมาจนมีอัพไซด์เหลือไม่เยอะจากมูลค่าพื้นฐานปีนี้ที่ 1.14 บาท ยังคงคำแนะนำเพียง "TRADING BUY" เพื่อรอพัฒนาการทางธุรกิจที่มากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังก่อนปรับเพิ่มราคาเป้าหมายต่อไป"บล.หยวนต้าฯ ระบุ