นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการ คณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข.เตรียมยื่นขอกระทรวงการคลังเพื่อขยายเพดานการลงทุนต่างประเทศ เป็น 25% จากปัจจุบันอยู่ที่ 15% โดยคาดว่าจะได้รับอนุญาตภายในปีนี้ เนื่องจากภาครัฐกำลังเร่งสนับสนุนให้มีการนำเงินออกไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น เพื่อประโยชน์ในการดูแลค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างมากในขณะนี้
ทั้งนี้ การลงทุนต่างประเทศของ กบข.ยังเน้นลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกได้มีการกระจายการลงทุนไปในหุ้นต่างประเทศค่อนข้างมาก และถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควรเพราะมีผลตอบแทนที่ดี คือประมาณ 10% ในรูปของเงินดอลลาร์ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศได้ผลตอบแทนเพียง 2% เท่านั้น แต่ก็ถือว่ายังน่าพอใจและไม่ได้ขาดทุน
นายวิสิฐ ให้ความเห็นว่า สำหรับสถานการณ์การแข็งค่าของเงินบาทน่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว และการที่เม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าอย่างต่อเนื่องเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาว่าเม็ดเงินดังกล่าวจะออกไปเมื่อใด ดังนั้นจะต้องระมัดระวังในการลงทุน
ที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นจนค่า PE มาอยู่ในระดับ 12.5-15 เท่า ใกล้เคียงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียแล้ว ขณะที่ผลตอบแทนการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไทยน่าจะมีแนวโน้มทรงตัวหรือปรับตัวลดลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในครึ่งปีแรก ดังนั้น นักลงทุนควรเลือกลงทุนในหุ้นที่ยังให้ผลตอบแทนดีในส่วนของหุ้นปันผล และหุ้นในกลุ่มอุปโภคบริโภคในประเทศก็ยังน่าสนใจ
ทาง กบข.ยังมีแผนจะลงทุนในธุรกิจบริหารจัดการกองทุน โดยแนวทางที่สรุปออกมาคือจะเข้าไปถือหุ้นของ บลจ.คาดว่าจะได้เห็นในเร็ว ๆ นี้ โดยจะเป็นบลจ.เอกชนไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/จำเนียร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--