นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ซี เฮ้าส์ซิ่ง (NCH) เปิดเผยว่า ยอดขายของบริษัทในปี 63 คาดว่าจะทะลุเป้าหมาย 2.7 พันล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกทำยอดขายได้สูงถึง 1.9 พันล้านบาทดีกว่าที่คาดไว้ จากปัจจัยหนุนของความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบกลับมาเพิ่มขึ้น เห็นได้จากยอดขายโครงการปาล์ม พาร์ค ทางด่วน-ลำลูกกา มูลค่า 600 ล้านบาทที่เปิดตัวไปในช่วงต้นปีทำยอดขายได้อย่างดี และยังยอดขายเข้ามาจากโครงการแนวราบอื่น ๆ ที่เปิดขายไปก่อนหน้านั้นเข้ามาเสริม
ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 3 โครงการ มูลค่ารวม 2 พันล้านบาท เป็นทาวน์เฮ้าส์และบ้านแฝดในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 2 โครงการ และพัทยา 1 โครงการ ซึ่งบริษัทมั่นใจว่ายอดขายในช่วงครึ่งปีหลังจะยังคงเติบโตขึ้นสูงกว่าครึ่งปีแรก โดยเฉพาะโครงการที่บริษัทพัฒนาสามารถตอบโจทย์ความสุขของลูกบ้านตามคอนเซ็ปต์ใหม่ คือ All for Home
กลยุทธ์การขายโครงการใหม่จะแบ่งการขาย ทั้งบ้านพร้อมอยู่ และบ้านสั่งสร้าง เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้ามากขึ้น เนื่องจากมีลูกค้าบางกลุ่มยังต้องการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเอง ทำให้บริษัทเพิ่มทางเลือกบ้านสั่งสร้างเข้ามา ซึ่งจะมีสัดส่วน 10% ในการขายแต่ละโครงการ อย่างไรก็ตาม บ้านพร้อมอยู่ยังเป็นสัดส่วนใหญ่ในการขายของบริษัท
ด้านรายได้ในปี 63 บริษัทยังมั่นใจทำได้ตามเป้าหมาย 1.6 พันล้านบาท เนื่องจากการโอนโครงการยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องตามแผน โดยในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการรับรู้รายได้จากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ทั้งหมด 500-600 ล้านบาท เข้ามาสนับสนุนรายได้ของบริษัทให้เป็นไปตามเป้า ขณะเดียวกันบริษัทยังช่วยให้คำปรึกษาในการยื่นขอสินเชื่อของลูกค้ามากขึ้น เพราะปัจจุบันสถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอาชีพที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรมและสายการบินจึงต้องให้คำปรึกษาและช่วยเหลือเตรียมตัวเป็นพิเศษ
นายสมนึก กล่าวถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังว่า ตลาดแนวราบยังคงคึกคักต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก จากพฤติกรรมที่คนหันมาซื้อที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นในการทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับครอบครัว โดยเฉพาะในช่วงล็อกดาวน์โควิด-19 บ้านเปรียบเสมือนทั้งที่อยู่อาศัยและที่ทำงาน ประกอบกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่หลายรายต่างหันมาขายโครงการแนวราบมาขึ้น ทำให้ตลาดคึกคักเพิ่มขึ้นจากการแข่งขันกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีต่อผู้ซื้อที่จะได้สินค้าที่คุ้มค่า
สำหรับกระแสข่าวเรื่องบริษัทจะถูกซื้อกิจการนั้น กรรมการผู้จัดการ NCH ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากบริษัทยังมีความสามารถและมีศักยภาพในการดำเนินงาน มีสภาพคล่องที่ดี และกลุ่มผู้บริหารซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ยังคงบริหารธุรกิจต่อเนื่อง แต่มีการเจรจากับพันธมิตรชาวต่างชาติที่สนใจเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการแนวราบกับบริษัท ซึ่งยังอยู่ระหว่างการเจรจาแต่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่นอนว่าจะชัดเจนเมื่อไหร่