ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดวันนี้ (7 สิงหาคม) ปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกต่อวิกฤติตลาดซับไพรม์ในสหรัฐ ส่งผลให้เกิดการเทขายในช่วงท้ายของวันทำการ หลังจากที่ตลาดดีดตัวขึ้นในช่วงเช้าเพราะได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวพุ่งสูงขึ้นและราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ร่วงลงเมื่อคืนนี้
นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวัง เนื่องจากความผันผวนจากตลาดหุ้นนิวยอร์ก ท่ามกลางวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดสินเชื่อ และความกังวลก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟดในคืนนี้
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีเวทเต็ดปิดลบ 79.42 จุด หรือ 0.89% ลงมาอยู่ที่ระดับ 8,862.31 จุด หลังขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 9,068.83 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.468 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน
หุ้นกลุ่มการเงินถูกแรงเทขายออกมามากที่สุด เนื่องจากความวิตกที่ว่าบริษัทการเงินในประเทศอาจประสบภาวะขาดทุน จากการลงทุนในผลิตภัณฑ์การเงินที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยกู้จำนองแก่ผู้ที่มีความน่าเชื่อถือต่ำในสหรัฐ
แทงค์ ฮัง ผู้จัดการ เมก้า อินเตอร์เนชั่นแนล อินเวสท์เม้นท์ เซอร์วิส กล่าวว่า นักลงทุนระยะสั้นใช้ประเด็นวิกฤตสินเชื่อสหรัฐเป็นข้ออ้างในการเทขาย ซึ่งกดดัชนีเวทเต็ดให้ดิ่งลง
หุ้นกลุ่มการเงินเผชิญกับแรงเทขายเนื่องจากวิตกตลาดซับไพรมในสหรัฐ แต่บริษัทที่มีการดำเนินงานในตลาดจีนยังคงพุ่งขึ้นในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนมีความคาดหวังต่อผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากการดำเนินงานในจีน
นอกจากนี้ เขาคาดว่า ดัชนีเวทเต็ดจะมีแนวรับอยู่ที่ราว 8,700 จุด เนื่องจากยังคงมีสภาพคล่องในตลาด
หุ้น เบนคิว คอร์ป ปิดลบที่ 16.75 ดอลลาร์ไต้หวัน จากแรงเทขายช่วงท้ายที่ฉุดให้ราคาปิดลดลง เนื่องจากข่าวที่บริษัทมียอดขายเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นเพียง 8% จากเดือนก่อนหน้า แตะระดับ 1.26 หมื่นล้านดอลลาร์ไต้หวัน
ด้านหุ้น เมก้า ไฟแนนเชียล โฮลดิ้ง ปิดลบที่ 19.60 ดอลลาร์ไต้หวัน เนื่องจากบริษัทคาดว่าจะขาดทุนสูงถึง 250 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน จากการเข้าลงทุนในภาคธุรกิจปล่อยกู้จำนองซับไพรม์ในสหรัฐ ในรูปของ การลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศประเภท CDO (collateralized debt obligation)
หุ้น ชิน คง ไฟแนนเชียล โฮลดิ้ง ปิดร่วงลงที่ 34.20 ดอลลาร์ไต้หวัน แม้บริษัทคาดการณ์ว่าตัวเลขขาดทุนจากการลงทุนในตลาดซับไพร์มของสหรัฐจะอยู่ในวงจำกัดก็ตาม
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ฤดี ภวสิริพร/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--