ธนาคารไทยธนาคาร(BT)เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารวันที่ 29 ส.ค.แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขั้นตอนการตัดสินใจลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศประเภท Collateralized Debt Obligation (CDO)ตามคำสั่งของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ในฐานะหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ เนื่องจากการลงทุนดังกล่าวส่งผลทำให้ธนาคารต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวนมากถึง 276 ล้านบาทในไตรมาส 2/50 โดยให้รายงานผลการตรวจสอบภายใน 30 วัน
นายพีรศิลป์ ศุภผลศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ BT กล่าวว่า การตั้งสำรองฯ ดังกล่าวเป็นการสำรองฯ ตามสภาพตลาด เนื่องจากตราสารดังกล่าวมีความผันผวนทางด้านราคา ทำให้ต้องมีการตั้งสำรองฯ เผื่อการด้อยค่า แม้ว่าจะเป็นการขาดทุนที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง ส่วนจะต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น ก็ขึ้นกับสภาพตลาดในระยะต่อไปเช่นกัน
ทั้งนี้ BT ได้ลงทุนในตราสารหนี้ CDO ทั้งหมด 14,463 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 6.4% ของสินทรัพย์รวม เป็นการลงทุนในตราสาร CDO ที่เกี่ยวข้องกับตลาดซับไพร์มประมาณ 1.7 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 0.7% ของสินทรัพย์รวม ซึ่งในส่วนนี้เป็น CDO ซีรีย์ 39 ที่มีแนวโน้มอาจผิดนัดชำระหนี้เมื่อครบกำหนดอายุเพียง 2% ของพอร์ตลงทุนทั้งหมดใน CDO และธนาคารตั้งสำรองไปแล้ว 276 ล้านบาทในไตรมาส 2/50
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ลงทุนไปเมื่อ ก.ค.49 จนถึงปัจจุบัน ธนาคารยังไม่ได้รับความเสียหายจากการลงทุน CDO เกิดขึ้น เป็นแค่เพียงการขาดทางบัญชีเท่านั้น รวมทั้งตราสารดังกล่าวยังได้รับการคงอันดับความน่าเชื่อถือไว้ที่ BBB- หรือระดับอินเวสท์เมนท์เกรด
นายชัยวัฒน์ เมธีวีรังสรรค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านตลาดทุนและบริหารธุรกรรมเครดิต BT กล่าวว่า การลงทุนใน CDO ทั้งหมดจะเป็นการลงทุนแบบระยะยาว หรือ hold to maturity คือลงทุนจนครบกำหนดอายุ ซึ่งธนาคารคาดว่าจะมีโอกาสเกิดความเสียหายหรือผิดนัดชำระเพียง 2% หรือวงเงินที่ลงทุนไว้ประมาณ 1 แสนเหรียญสหรัฐ ขณะที่การลงทุนใน CDO คิดเป็นประมาณ 15% ของพอร์ตลงทุนทั้งหมดของธนาคาร
ส่วนจะมีการลงทุนเพิ่มใน CDO หรือไม่ ขึ้นกับผลตอบแทนการลงทุนที่คาดว่าจะได้รับและการตัดสินใจของคณะกรรมการ โดยจะพิจารณาสภาพตลาด และคุณภาพอสังหาริมทรัพย์หนุนหลังของตราสารไปด้วย
--อินโฟเควสท์ โดย อภิญญา วุฒิเมธากุล/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--