นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บีจี คอนเทนเนอร์ (BGC) เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการจัดอันดับเครดิตจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด หลังจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ระดับ "A-" ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจ พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์แก้วของประเทศไทย
"นี่ถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทได้รับการจัดอันดับเครดิตจากทริสฯ โดยบริษัทได้รับอันดับเครดิตที่ระดับ "A-" แนวโน้มอันดับเครดิต "คงที่" สะท้อนถึงรากฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง และมีขีดความสามารถทางการแข่งขันในธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้วในระดับสูง โดยปัจจัยมาจากที่บริษัทมีประสบการณ์ในธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้วมานานกว่า 40 ปี จนเป็นหนึ่งในผู้นำการผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วของประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน ตลอดจนบริษัทได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ ตอบสนองความต้องการได้เป็นอย่างดี จึงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ"นายศิลปรัตน์ กล่าว
นายศิลปรัตน์ กล่าวว่า บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ผ่านมาเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังรักษาความสม่ำเสมอในอัตรากำไรได้เป็นอย่างดี ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการที่บริษัทมีการบริหารจัดการกระบวนการผลิตและต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเมื่อปี 2562 บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัทจำหน่ายเศษแก้ว 2 ราย คือ บริษัท บี เอส กล๊าสรีไซคลิ่ง จำกัด และ บริษัท ทวีทรัพย์ (จิวแจ๊ะเฮง) จำกัด เพื่อรักษาฐานวัตถุดิบให้มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น
อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทมีความมั่นคงทางธุรกิจ คือ บริษัทมีแหล่งรายได้ที่หลากหลาย นอกเหนือจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้วแล้ว ยังมีธุรกิจในกลุ่มพลังงานหมุนเวียน ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอให้กับบริษัทในระยะยาว
ทั้งนี้ ในปี 2563 บีจีซีวางกลยุทธ์ขยายฐานการส่งออกให้กับลูกค้าที่มีอัตรากำไรดี เช่น กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่มีราคาแพง กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมยา รวมถึงแสวงหาโอกาสเติบโตทางธุรกิจแบบก้าวกระโดด ผ่านการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบรรจุภัณฑ์และพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศ ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทได้รับความเชื่อมั่นจากสถาบันการเงินและนักลงทุนเป็นอย่างดี