AMATA ตั้งเป้าเพิ่มรายได้บริการเป็น 50%/ร่วมทุน PRIN ในเวียดนามปี 51

          บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น(AMATA)ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการบริหารเป็น 50% ภายใน 5 ปี โดยเน้นการร่วมทุนพันธมิตร เพื่อปรับธุรกิจให้รับสถานการณ์ได้ดีขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมายอดขายที่ดินได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่แผนร่วมทุน บมจ.ปริญสิริ (PRIN) พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในเวียดนามน่าจะเห็นได้ในช่วงกลางปี 
          นางสมหะทัย พานิชชีวะ รองประธานอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจ AMATA กล่าวว่า บริษัทจะทยอยเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการบริการมากขึ้น โดยปีนี้จะเพิ่มเป็น 30-35% เพิ่มขึ้นจาก 28-30% ในปี 49 ก่อนจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 50:50 เมื่อเทียบกับรายได้จากการขายที่ดินใน 5 ปีข้างหน้า  
          "เศรษฐกิจที่ผ่านมาส่งผลให้การขายที่ดินชะลอ บริษัทจึงหันไปมองรายได้จากการบริหาร เพื่อเป็นอีกช่องทางในการเพิ่มรายได้" นางสมหะทัย กล่าว 
          นางสมหะทัย กล่าวต่อว่า แนวทางการร่วมทุนกับพันธมิตรนั้น บริษัทจะเน้นการลงทุนในลักษณะการนำที่ดินที่มีอยู่เข้าร่วมทุนเป็นหลัก  ซึ่งล่าสุดบริษัทร่วมกับโรงพยาบาลวิภาราม สร้างโรงพยาบาลวิภาราม(อมตะนคร) โดยบริษัทลงทุนที่ดินจำนวน 9 ไร่ คิดเป็นเม็ดเงินลงทุนในส่วนของบริษัทประมาณ 54 ล้านบาท  
          ปัจจุบัน บริษัทมีบริษัทย่อยจากการร่วมทุนแล้ว 14 บริษัท คาดว่าในอนาคตจะเพิ่มจำนวนเป็น 50 บริษัทตามสัดส่วนของรายได้ด้านบริการที่จะเพิ่มขึ้น
          นางสมหะทัย ยังกล่าวถึงแผนความร่วมมือกับ บริษัท ปริญเวนเจอร์ ในเครือบมจ.ปริญสิริ (PRIN) เพื่อลงทุนก่อสร้างโครงการที่พักอาศัยในเวียดนามนั้น คาดว่าจะเห็นการลงทุนราวกลางปี 51 ในการพัฒนาโครงการบนที่ดินประมาณ 100 ไร่ เนื่องจากการก่อสร้างโครงการในเวียดนามต้องได้รับใบอนุญาตจาก ซึ่งคาดว่าจะได้รับอนุมัติปลายปีนี้  
          ทางด้านนายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหาร AMATA กล่าวว่า ในด้านธุรกิจพัฒนาที่ดินนิคมอุตสาหกรรมนั้น ขณะนี้มีลูกค้าประมาณ 10 รายที่แสดงความสนใจจะเข้าซื้อที่ดินในนิคมฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร
          "ทิศทางครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก หลังการเมืองชัดเจนขึ้น แม้ว่าขณะนี้จะมีความกังวลเล็กน้อย และหากดีขึ้นก็อาจจะปรับเป้าขึ้นอีก 10%" นายวิบูลย์ กล่าว