SIRI ฝ่ากระแสตลาดคอนโดฯซบเปิดใหม่ 2 โครงการย่านรังสิต-บางแค มั่นใจทั้งปียอดขายเข้าเป้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 29, 2020 15:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปิติ จารุกำจร รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวสูงและบริหารกลยุทธ์โครงการ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัททำยอดขายคอนโดมิเนียมได้แล้ว 1.1 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 1.6 หมื่นล้านบาท ขณะที่เป้าหมายยอดขายรวมในปีนี่อยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังมีแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่อีกเพียง 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ ดีคอนโด ไฮด์อเวย์ มูลค่า 1.5 พันล้านบาท และโครงการเดอะเบส อีสต์ บางแค ซึ่งเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางในราคาจับต้องได้ง่าย และเป็นทำเลที่บริษัทมั่นใจว่ามีความต้องการซื้อจากกลุ่มลูกค้าในบริเวณใกล้เคียง

แนวโน้มตลาดคอนโดมิเนียมในช่วงครึ่งปีหลังมองว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ออกไปก่อน เพราะตลาดยังไม่ฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็ว รวมถึงกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติยังไม่สามารถกลับมาซื้อในช่วงนี้จากมาตรการปิดประเทศ ดังนั้น ผู้ประกอบการส่วนใหญ่คงเน้นการขายโครงการในมือที่มีอยู่และโครงการที่ใกล้สร้างเสร็จแล้วเพื่อทยอยระบายสต็อก เมื่อมีโครงการใหม่เปิดตัวค่อนข้างน้อยก็เป็นโอกาสให้ที่บริษัทจะนำเสนอโครงการมาเป็นทางเลือกใหม่ๆ ให้กับลูกค้าที่สนใจซื้อคอนโดมิเนียมในช่วงนี้

ทั้งนี้ การเปิดขายโครงการ ดีคอนโด ไฮด์อเวย์ รังสิต มูลค่า 1.5 พันล้านบาท ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่เข้ามาจองแล้ว 190 ยูนิต มูลค่า 320 ล้านบาท จากจำนวนยูนิตทั้งหมด 800 ยูนิต และจะเปิดพรีเซลในวันที่ 1-2 ส.ค.นี้อีกครั้ง โดยที่บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายโครงการดังกล่าวถึงสิ้นปี 63 ไว้ที่ 50% และตั้งเป้ายอดขาย 80% เมื่อโครงการแล้วเสร็จในปี 64 ส่วนอีก 20% จะนำมาขายเป็นยูนิตพร้อมอยู่

นายปิติ กล่าวว่า บริษัทมองเห็นถึงศักยภาพของทำเลรอบๆมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิตที่มีจำนวนนักศึกษาจำนวนมากกว่า 40,000 คน เพิ่มขึ่นเฉลี่ย 3.2% ต่อปี และมีความต้องการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมเพิ่มมากขึ้น และเป็นทำเลที่มีจำนวนซัพพลายคอนโดมิเนียมไม่มากราว 15,000 ยูนิต ประกอบกับอัตราค่าเช่าอยู่ในระดับที่ดี 8,500-10,000 บาท/เดือน และมีส่วนต่างราคาขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5% ต่อปี ทำให้เป็นทำเลที่มีศักยภาพเหมาะกับการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและซื้ออยู่เพื่อลงทุน

ขณะเดียวกันอีกหนึ่งกลยุทธ์ของคอนโดมีเนียมในปี 63 บริษัทยังเน้นการโอนโครงการ เพื่อรับรู้รายได้เข้ามาเป็นหลัก โดยในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะโอนคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จใหม่ 6 โครงการ ได้แก่ โครงการ XT เอกมัย, โครงการ oka huas, โครงการ La Habana หัวหิน, โครงการ ดีคอนโด ธาร, โครงการ ดีคอนโด บลิช ศรีราชา และโครงการ เดอะเบส เซ็นทรัล-ภูเก็ต ซึ่งจะเข้ามาสนับสนุนรายได้ให้กับบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังเป็นไปตามเป้ารายได้ที่ตั้งไว้ 4.2 หมื่นล้านบาท หลังจากที่รายได้ในครึ่งปีแรกทำได้กว่า 50% ของเป้าหมายแล้ว ซึ่งปัจจุบันการโอนโครงการได้กลับมาทยอยเพิ่มขึ้น หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศเริ่มคลี่คลาย

นอกจากนี้ บริษัทยังคงจัดกิจกรรมกระตุ้นการขายโครงการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการพร้อมอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งระบายสต็อกของบริษัทออกมา ซึ่งมีสต็อกพร้อมขายอยู่ราว 7 พันล้านบาท ประกอบกับยังช่วยลูกค้าที่เตรียมยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินในการเตรียมความพร้อมในการการจัดงาน Credit Day ซึ่งมีลูกค้าเข้าร่วมโครงการสัดส่วนมากกว่า 50% ของลูกค้าที่ซื้อโครงการของแสนสิริ เพื่อประเมินความสามารถในการกู้สินเชื่อของลูกค้า และเตรียมความพร้อมให้กับลูกค้าก่อนยื่นกู้ ซึ่งปัจจุบันสถาบันการเงินถือว่ามีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อค่อนข้างมาก จะเห็นได่จากปัตราการปฏิเสธสินเชื่อของลูกค้าที่ซื้อโครงการของบริษัทมีอัตราการปฏิเสธเพิ่มขึ้นมาเป็น 15% จากปีก่อนที่ 10% ทำให้บริษัทเห็นถึงความสำคัญในการเตรียมความพร้อของลูกค้ามากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ