MPT บวก 3.23% โบรกฯเตือนระมัดระวังการลงทุนแผนซื้อหุ้นยังไม่ชัด

          หุ้น MPT บวก 3.23% อยู่ที่ 2.56 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท เมื่อเวลา 10.00 น.โดยเปิดตลาดที่ 2.60 บาท ราคาปรับขึ้นสูงสุดที่ 2.62 บาท และราคาปรับลงต่ำสุดที่ 2.54 บาท 
          บทวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะ"หลีกเลี่ยง"เนื่องจาก TDK จะซื้อห้น MPT ในสัดส่วนเกิน 50% จึงน่าจะต้องทำ tender offer หุ้นส่วนที่เหลือด้วย แต่ยังไม่มีการแจ้งแผนการใดๆ จากทั้ง MPT และ TDK ขณะนี้ยังคงเร็วไปที่จะประเมินผลกระทบต่อ MPT ในเชิงกำไร ด้วยแผนการของผู้ถือหุ้นใหม่ที่ยังไม่ชัดเจนอีกทั้งโอกาสที่ราคาขายของ MPT จะถูกกดดันจากลูกค้าที่เป็นบริษัทแม่หรือไม่ 
          ดังนั้นจึงยังไม่ปรับการคาดผลขาดทุนสุทธิ 848 ล้านบาทในปีนี้และกำไร 279 ล้านบาทในปีหน้า และยังคงราคาเหมาะสม 1.70 บาท/หุ้น อ้างอิง P/E ปีหน้า 13 เท่า
          ด้วยราคาซื้อขายหุ้นราว 2.73 บาท/หุ้น อีกทั้งโอกาสที่ MPT จะได้รับประโยชน์จากบริษัทแม่ใหม่ ราคาหุ้น MPT มีโอกาสปรับตัวขึ้นด้วย limit ประมาณ 2.73 บาท แต่ด้วยแนวโน้มที่ยังคงไม่ชัดเจน อีกทั้งราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นแล้ว 49% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาด้วยข่าวลือการ takeover เราแนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายหุ้น
          บล.นครหลวงไทยแนะ"ขาย"ประเมินราคาตามปัจจัยพื้นฐานของ MPT ด้วยวิธี Justified PER โดยGrowth Rate ปี 2551 อยู่ที่ 8.50% และ Re ที่ 12.64% ได้ Justified PER อยู่ที่ 12.08 เท่า เพื่อให้สะท้อนถึงโอกาสความเป็นไปได้ที่ MPT จะกลับมามีกำไรจากการดำเนินงานอีกครั้ง ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2551 อยู่ที่ 1.40 บาท 
          อย่างไรก็ตาม การประมาณการผลการดำเนินงานในปี 2551 ตั้งอยู่บนความเสี่ยงของทิศทางเทคโนโลยีที่อาจจะทำให้การประมาณการผิดพลาดได้ อีกทั้งยังมิได้ประเมินประโยชน์หลัง TDK เข้าถือหุ้นใน MPT
          เช้านี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)อนุญาตให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ บมจ.แมกเนคอมพ์ พรีซิชั่น เทคโนโลยี(MPT) โดยการปลดเครื่องหมาย "SP" ตั้งแต่การซื้อขายหลักทรัพย์รอบเช้าของวันที่ 30 สิงหาคม 2550 เป็นต้นไป
          ก่อนหน้านี้ ตลท.สั่งห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ MPT ตามที่ MPT ขอมาในวันที่ 29 สิงหาคม 2550 เนื่องจาก MPT จะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นสารสนเทศที่สำคัญที่อาจมีผลกระทบต่อการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท และบริษัทจะสามารถเปิดเผยสารสนเทศดังกล่าวมายังตลท.ได้ภายหลังปิดการซื้อขายหลักทรัพย์รอบบ่ายของวันที่ 29 สิงหาคม 2550