นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ก่อน และตามมาด้วยแรงขายทำกำไร เนื่องจากตลาดสหรัฐฯบวกได้เล็กน้อยเมื่อคืนที่ผ่านมา และเช้านี้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียก็บวกเล็กน้อยเป็นส่วนใหญ่ หลังจากที่ผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาตามที่ตลาดคาดไว้ โดยมีการคงอัตราดอกเบี้ย และยังว่าจะใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ซึ่งการคงอัตราดอกเบี้ยก็จะให้อยู่ในระดับต่ำไปจนถึงเดือนมี.ค.64 เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับตลาดฯ
อย่างไรก็ดี คืนนี้จะมีการประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯงวดไตรมาส 2/63 ซึ่งตลาดคาดว่าจะติดลบ 34% นับเป็นระดับติดลบมากสุดในรอบ 70 ปี และเป็นการติดลบ 2 ไตรมาสติดต่อกัน ถือว่าเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้อาจเผชิญแรงขายออกมาได้ และไตรมาส 3-4 ก็ยังไม่น่าจะดีด้วย เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯยังมีอยู่สูง และจีนก็มีการระบาดรอบสอง โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อ 101 คน สูงสุดในรอบ 3 เดือนครึ่ง อีกทั้งฮ่องกงก็กลับมาล็อกดาวน์อีกครั้งหลังการแพร่ระบาดโควิดกลับมา ซึ่งหลายประเทศก็ยังกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อยู่ ด้านวัคซีนต้านไวรัสโควิดก็ยังใช้การไม่ได้
แต่ทั้งนี้ ตลาดฯอาจมีแรงหนุนบ้างจากราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 10.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ก.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล พร้อมให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป โดยวันนี้ PTTEP จะประกาศงบฯ
พร้อมให้แนวรับ 1,330 จุด ส่วนแนวต้าน 1,347 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (29 ก.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,539.57 จุด เพิ่มขึ้น 160.29 จุด (+0.61%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,258.44 จุด เพิ่มขึ้น 40.00 จุด (+1.24%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,542.94 จุด เพิ่มขึ้น 140.85 จุด (+1.35%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 92.13 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 5.02 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 96.10 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 150.89 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 12.17 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 8.21 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.6 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 ก.ค.63) 1,338.35 จุด ลดลง 2.57 จุด (-0.19%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 740.19 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 ก.ค.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (29 ก.ค.63) ปิดที่ 41.27 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.6%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 ก.ค.) อยู่ที่ -0.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.44 แข็งค่าจากวานนี้ หลังดอลล์อ่อนรับเฟดคงดอกเบี้ย-ส่งสัญญาณกระตุ้นศก.ต่อเนื่อง
- กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) คาดการณ์ยอดใช้น้ำมันปี 2563 ลดลง 8.7% ทำสถิติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เหตุจากพิษโควิด-19 โดยเฉพาะการใช้น้ำมันเครื่องบินคาดการใช้ดิ่งหนักสุดถึง 43.5% เบนซิน ลบ 3.1% ดีเซลขยับเล็กน้อยโต 0.4% จ่อชง รมว.พลังงานคนใหม่เคาะเวลาดัน E20 เป็นน้ำมันพื้นฐานปูทางเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 และผลศึกษานำร่องบล็อกเชนซื้อขายน้ำมันปาล์มที่ได้ผลดี
- ชัดเจนแล้วว่า "เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ" คือ "ว่าที่" ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) "คนใหม่" หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วานนี้ (29 ก.ค.) เห็นชอบให้ "เศรษฐพุฒิ" ดำรงตำแหน่ง "ผู้ว่าการธปท." ต่อจาก "วิรไท สันติประภพ" ผู้ว่าการธปท. คนปัจจุบัน ซึ่งกำลังจะครบวาระในสิ้นเดือนก.ย.นี้
- หอการค้าไทย รับโควิดไม่จบ สงครามการค้ารอบใหม่ส่งผลทั้งปีส่งออกส่อติดลบ 9.6% ต่ำสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่ครึ่งปีหลังอาจติดลบถึง 19.8% จับตาค่าเงินบาทปัจจัยสำคัญฉุดหรือฟื้นส่งออกไทย วอนรัฐลดภาษีเงินได้-มูลค่าเพิ่มเติมเงินในกระเป๋าชาวบ้าน
- สศอ.เปิดดัชนีเอ็มพีไอ มิ.ย.ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 สะท้อนเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมเริ่มฟื้นตัว เชื่อผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ลุ้นโควิดสงบพลิกฟื้นกำลังซื้อ ด้านดัชนีเชื่อมั่นเอสเอ็มอีปรับเข้าใกล้ค่าฐานกลางระดับ 50 ชี้สูงสุดตั้งแต่เกิดโรคระบาด
- ครม.ไฟเขียวปล่อยนอนแบงก์กู้ซอฟต์โลนออมสินได้ ผ่อนคลายกฎช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยเข้าถึงเงินทุน ลดความเดือดร้อนจากโควิด-19 กอช.แนะพักส่งเงินออมได้หากเดือดร้อนจากโควิด-19 แนะอย่ายกเลิกเป็นสมาชิก หวั่นเสียสิทธิ์เงินสมทบจากรัฐบาล
- นายณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุน ผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (CIS) เปิดเผยว่า ราคาทองคำยังคงเดินหน้าสร้างจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ยืนเหนือ 1,920 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเดิมในปี 2555 หากยังสามารถยืนอยู่เหนือระดับดังกล่าวได้ต่อเนื่อง มุมมองเชิงเทคนิค มีโอกาสที่ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,100 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ระยะสั้นอาจมีการเทขายทำกำไรจากการที่เริ่มเข้าเขตซื้อมากเกินไป (Overbought) โดยมีแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งน่าจะเป็นระดับที่มีนักลงทุนรอขายเป็นจำนวนมาก
*หุ้นเด่นวันนี้
- SICT (บมจ. ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี) เทรดวันนี้วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายใต้กลุ่มเทคโนโลยี โดยมีราคาเสนอขาย IPO ที่ 1.38 บาท/หุ้น บริษัทฯประกอบธุรกิจออกแบบ วิจัยและพัฒนาวงจรรวม (Integrated Circuit Design) หรือไมโครชิพ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของอุปกรณ์ระบบระบุข้อมูลของวัตถุที่ขึ้นทะเบียนด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency Identification: RFID) และว่าจ้างผลิตเพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าภายใต้เครื่องหมายการค้า "SIC" ในหลายประเทศทั่วโลก เช่น กลุ่มประเทศในทวีปยุโรป ออสเตรเลีย สาธารณรัฐประชาชนจีน และสหรัฐอเมริกา
- GLOBAL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 19.50 บาท ประกาศงบวันนี้ คาดกำไรปกติ Q2/63 -26.6% Q-Q, -13.1% Y-Y แต่จะเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้และหดตัวน้อยกว่ากลุ่มค้าปลีกอื่น โดย SSSG ติดลบแรงในเดือน เม.ย. จากการปิดสาขา แต่กลับมาฟื้นตัวได้เร็วและทรงตัวได้ในเดือน มิ.ย. แนวโน้ม H2/63 คาดฟื้นตัวต่อเนื่องจากภาพกำลังซื้อในต่างจังหวัดที่ไม่แย่ หนุนให้ SSSG เดือน ก.ค. พลิกมาเป็นบวกได้ ส่วนฝั่ง Margin คาดขยายตัวขึ้นจากการเพิ่มสัดส่วนสินค้า House Brand พร้อมคาดกำไรปี 2563 สามารถเติบโตได้ +1.1% Y-Y และเร่งตัวขึ้นเป็น +22.6% Y-Y ในปี 2564
- TASCO (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้าสูงสุด IAA Consensus 32 บาท เก็งกำไรงบ Q2/63 พลิกมีกำไร 1,400-1,500 ล้านบาทเทียบกับขาดทุนสุทธิ 784 ล้านบาทใน 1Q63 โดยมีแรงหนุนจากการบันทึกกลับ NRV ทั้งหมดหลังจากราคายางมะตอยกลับมาเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก Q1/63 และ Q3/63 ยังมี Sentiment บวกจากดีมานด์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากจีนหลังจากปีนี้จีนเกิดน้ำท่วมหนักส่งผลให้รัฐจำเป็นต้องเร่งซ่อมแซมถนนหนทาง (TASCO ส่งออกยางมะตอยไปจีนคิดเป็น 40%)