หุ้น SICT เปิดเทรดวันแรกที่ 4.14 บาท เพิ่มขึ้น 2.76 บาท (+200%) จากราคาขาย IPO ที่ 1.38 บาท/หุ้น
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า เนื่องด้วยธุรกิจของ บมจ.ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี (SICT) เป็นธุรกิจที่หาตัวเปรียบเทียบได้ยากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมเบื้องต้นจึงเลือกใช้หุ้นในกลุ่ม TECH (MAI) เป็นตัวเปรียบเทียบแทน โดยมีค่า Median ที่ประมาณ 15.6 เท่า และ Mean ที่ 19 เท่า และหากใช้เป้าหมายการเติบโตเป็นเท่าตัวภายใน 4 ปีของผู้บริหารจะคิดเป็นการเติบโตประมาณ 15% ทำให้จะมีมูลค่าที่เหมาะสมเบื้องต้นที่ 1.70-2.00 บาท
ธุรกิจของบริษัทที่เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การทำ Tag ลงทะเบียนสัตว์ ที่ในอนาคตจะได้ประโยชน์ หากมีการใช้ Blockchain เข้ามาในธุรกิจอาหารเพื่อเพิ่มมาตรฐานด้านความปลอดภัย รวมไปถึงการใช้ไมโครชิพในอุตสาหกรรมต่างๆ แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความเสี่ยงในด้านของการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและค่าใช้จ่ายในการวิจัยพัฒนาที่ไม่สามารถนำมาผลิตเชิงพาณิชย์ได้ รวมไปถึงรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทมาจากต่างประเทศ ทำให้ค่าเงินเป็นความเสี่ยงสำคัญ
SICT ประกอบธุรกิจวิจัย พัฒนาไมโครชิพ และว่าจ้างผลิตเพื่อจำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้า "SIC" โดยแบ่งสินค้าได้ 3 กลุ่มหลัก 1) ไมโครชิพสำหรับระบบลงทะเบียนสัตว์ (สัดส่วนรายได้ 41.88%) ใช้สำหรับบันทึกข้อมูลของสัตว์เศรษฐกิจ เช่น โคเนื้อ, โคนม, แกะ ไปจนถึงสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข และแมว ในกลุ่มประเทศส่งออกผลิตภัณฑ์จากสัตว์รายใหญ่ เช่น ยุโรป ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, สหรัฐอเมริกาและประเทศในกลุ่มอเมริกาใต้ เนื่องจากในบางรัฐสัตว์ทุกตัวต้องติดป้ายที่มีไมโครชิพในลักษณะดังกล่าวเพื่อใช้ในการตรวจสอบย้อนกลับ โดยลูกค้าของบริษัทเป็นผู้ผลิตแท็กระบบลงทะเบียนสัตว์ (Ear Tag) รายใหญ่ของโลก
2) ระบบไมโครชิพสำหรับระบบเข้า-ออกสถานที่และอ่านข้อมูล (สัดส่วนรายได้ 31.57%) ประกอบด้วยบัตร (card) สำหรับพกพาและเครื่องอ่าน (Reader) ที่ติดอยู่ตามประตูทางเข้าสถานที่ต่างๆ และเครื่องอ่านสำหรับระบบอุตสาหกรรม (Industrial) เพื่อใช้ติดตามความเคลื่อนไหวของสินค้าในสายการผลิต และเครื่องอ่านสำหรับระบบของเล่น (Smart Toys and Educational Toys) เพื่อใช้เชื่อมต่อชิ้นของเล่นกับหน้าจอแสดงผลต่างๆ
3) ระบบกุญแจอิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ (สัดส่วนรายได้ 25.30%) กลุ่มลูกค้าเป็นผู้ผลิตกุญแจสำรองที่ตั้งอยู่ในยุโรปและสหรัฐฯ ที่เป็นผู้ผลิตรถยนต์กลุ่มตลาดระดับบน ซึ่งบริษัทฯเป็นรายเดียวที่สามารถผลิตและจำหน่ายไมโครชิพที่ใช้กับกุญแจสำรองในลักษณะ 3-in-1
โครงการในอนาคต : บริษัทมีโครงการพัฒนาออกแบบสินค้า (Development Project) ซึ่งเป็นการพัฒนาสินค้ารุ่นใหม่เพื่อใช้สำหรับสร้างการเติบโตในอนาคตของบริษัทในระยะ 1-3 ปีข้างหน้า รวม 13 โครงการ โดย ณ สิ้นสุด 31 มีนาคม 2563 โครงการที่พัฒนาแล้วเสร็จมีจำนวน 4 โครงการ และโครงการที่ยังอยู่ระหว่างพัฒนาอีก 9 โครงการ
โครงการลงทุนเพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาในอนาคต 1. การลงทุนในเครื่องมือ อุปกรณ์ และซอฟต์แวร์ด้านการออกแบบและทดสอบไมโครชิพ 2. การลงทุนในทรัพย์สินทางปัญญา เช่น สิทธิบัตร และ3. การลงทุนหรือร่วมลงทุนในบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจด้านการออกแบบและพัฒนาวงจรรวม หรือมีนวัตกรรมที่ส่งเสริมการประกอบธุรกิจของบริษัท