นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บีซีพีจี (BCPG) เปิดเผยว่า แนวโน้มกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ปี 63 เติบโต 20% จากระดับ 2.58 พันล้านบาทในปีที่แล้ว จากการรับรู้ผลการดำเนินของโครงการพลังน้ำในลาวทั้ง Nam San 3A ที่เข้าซื้อเมื่อเดือนก.ย.62 และ Nam San 3B ที่เข้าซื้อเมื่อเดือน ก.พ.63 อีกทั้งยังมีโอกาสปิดดีลการซื้อกิจการ (M&A) มากกว่า 1 โครงการในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งเป็นโครงการที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว โดยเฉพาะโครงการโซลาร์ฟาร์เก่า เพื่อนำมาปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตอีกเล็กน้อย ซึ่งจะยังให้ผลตอบแทนการลงทุนอยู่ในระดับที่ดี
ขณะเดียวกันมีแผนขยายการผลิตไฟฟ้าในลาว เพื่อขายไฟฟ้าไปยังเวียดนาม ซึ่งเบื้องต้นมองโอกาสมีศักยภาพรวมกันได้สูงถึง 2,500 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งจะเข้ามาช่วยปิดความเสี่ยงจากโซลาร์ฟาร์มในไทยของบริษัท ที่ได้รับค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่ม (adder) จะทยอยหมดอายุในช่วงปี 3-4 ปีข้างหน้า และการขยายลงทุนดังกล่าวจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือจนถึงปี 68 ที่วางเป้าหมาย COD โรงไฟฟ้าในมือครบ 841.9 เมกะวัตต์ หรือเทียบเท่ากำลังการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ที่ระดับ 2,200 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่ COD แล้ว 451.8 เมกะวัตต์ หรือเทียบเท่ากำลังการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ 1,450 เมกะวัตต์ ใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว เวียดนาม ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์