นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ติดลบ ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเช้านี้ว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตงวดเดือนก.ค.ออกมาดีขึ้น แต่ภาคบริการกลับลดลง ซึ่งก็มองเป็นกลางไม่น่าจะมีผลต่อตลาดมากนัก แต่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงอาจทำให้หุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจอาจย่อตัวลงได้
ทั้งนี้ ยังต้องติดตามปัจจัยจากฝั่งสหรัฐฯในเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเรียบร้อยหรือยัง และการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ซึ่งก็ให้ดูพวกกลุ่มเทคโนโลยี ที่งบฯอาจจะดีกว่าคาด แต่กลุ่มพลังงานอาจจะออกมาไม่ดี
สำหรับตลาดบ้านเราให้ติดตามปัจจัยการเมือง โดยเฉพาะเรื่องม็อบที่น่าเป็นห่วง กลัวจะทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ และให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในประเทศ ซึ่งช่วงนี้คงจะต้องเทรดหุ้นตามปัจจัยในประเทศของแต่ละตลาดไปก่อน
ทั้งนี้ ดัชนีฯได้หลุดทางเทคนิคไปแล้วทำให้เกิดสัญญาณขาย และกลับทิศทางเป็นขาลงอีกครั้ง โดยให้แนวรับ 1,300 ถัดไป 1,288-1,280 จุด ส่วนแนวต้าน 1,330 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (30 ก.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,313.65 จุด ลดลง 225.92 จุด (-0.85%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,246.22 จุด ลดลง 12.22 จุด (-0.38%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,587.81 จุด เพิ่มขึ้น 44.87 จุด ( +0.43%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 71.64 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 6.02 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 36.70 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 69.46 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 11.52 จุด
ส่วนตลาดหุ้นสิงคโปร์ และตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลฮารีรายออีฎิ้ลอัดฮา
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 ก.ค.63) 1,315.74 จุด ลดลง 22.61 จุด (-1.69%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,937.92 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 ก.ค.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (30 ก.ค.63) ปิดที่ 39.92 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.35 ดอลลาร์ หรือ 3.3%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (30 ก.ค.) อยู่ที่ -0.51 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.32 แข็งค่าจากวานนี้ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯกดดอลล์อ่อน
- ทอท.คาดงวดปี 64 ผลประกอบการขาดทุน ฉุดสภาพคล่อง หลังพิษโควิดกระทบกระแสเงินสดเหลือ 5 หมื่นล้านบาท คงแผนลงทุนต่อเนื่อง บอร์ดยืดเวลาเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ ทำพลาดรายได้ "คิงเพาเวอร์" หนุนรวมกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท
- ศาลล้มละลายรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของ "นกแอร์" ไว้พิจารณา หลังติดหนี้อาน ได้พักการชำระหนี้ทันที นัดไต่สวนคำร้องวันที่ 27 ต.ค. 63 เผยแบกหนี้กว่า 2.6 หมื่นล้านบาท เจ้าหนี้กว่า 300 ราย
- นายสุรงค์ บูลกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการโมเดิร์น เทรด ประจำไตรมาสที่ 2 ปี 63 ว่า ได้เสนอให้รัฐบาลเร่งแก้กฎหมายแรงงานให้ภาคธุรกิจสามารถจ้างงานเป็นรายชั่วโรงได้เพื่อเป็นการส่งเสริมการจ้างงานกับผู้ว่างงาน จากปัจจุบันกฎหมายจะบังคับจ้างงานแบบค่าจ้างขั้นต่ำเป็นรายวัน ซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและความต้องการของผู้ประกอบการ หากแก้กฎหมายให้จ้างงานเป็นรายชั่วโมง จะช่วยให้ภาคธุรกิจประคองกิจการและสามารถเพิ่มการจ้างงานในชั่วโมงเร่งด่วน หรือช่วงเทศกาลต่าง ๆ ที่มีประชาชนเข้าไปใช้บริการจำนวนมาก โดยเฉพาะห้างโมเดิร์นเทรดต้องการลูกจ้างรายชั่วโมงไม่ต่ำกว่า 5,000 อัตรา แต่ไม่สามารถจ้างงานได้
- นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า คลังได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ลงจากบวก 2.8% เป็นติดลบ 8.5% ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำสุดในประวัติการณ์ และหนักกว่าช่วงเกิดวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี 41 ที่ขณะนั้นเศรษฐกิจติดลบเพียง 7.6% โดยปัจจัยทั้งหมดเป็นผลจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้แรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจทุกตัวชะลอลงหมด โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนที่ติดลบ 2.6% การลงทุนภาคเอกชนลบ 12.6% การส่งออกลบ 11% และการนำเข้าติดลบ 14.2%
*หุ้นเด่นวันนี้
- GLOBAL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 19.50 บาท ประกาศกำไรสุทธิ Q2/63 ดีกว่าคาด 12% ที่ 507 ล้านบาท -17.7% Q-Q, -2.5% Y-Y หากบวกกลับ FX Loss 28 ล้านบาท จะมีกำไรปกติที่ 535 ล้านบาท -5% Q-Q, +0.6% Y-Y น่าประทับใจมาก แม้ถูกกระทบจาก โควิด-19 ต้องปิดสาขาและทำให้ SSSG -20% Y-Y แต่ชดเชยด้วย Gross Margin ที่ดีมากทำจุดสูงสุดใหม่จากการเพิ่มสัดส่วน House Brand หักล้างการอ่อนตัวลงของรายได้ได้ทั้งหมด แนวโน้ม 2H63 ฟื้นตัวต่อเนื่อง ล่าสุด SSSG เดือนก.ค. เริ่มทรงตัวถึงบวกเล็กน้อย
- TASCO (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า สูงสุด IAA Consensus 32 บาท เก็งกำไรงบ Q2/63 พลิกมีกำไร 1,400-1,500 ล้านบาทเทียบกับขาดทุนสุทธิ 784 ล้านบาทใน Q1/63 โดยมีแรงหนุนจากการบันทึกกลับ NRV ทั้งหมดหลังจากราคายางมะตอยกลับมาเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก Q1/63 และ Q3/63 ยังมี Sentiment บวกจากดีมานด์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากจีนหลังจากปีนี้จีนเกิดน้ำท่วมหนักส่งผลให้รัฐจำเป็นต้องเร่งซ่อมแซมถนนหนทาง (TASCO ส่งออกยางมะตอยไปจีนคิดเป็น 40%)