นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ (ASIMAR) เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯได้ลงนามสัญญาจ้างกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่มอบความไว้วางใจให้ดำเนินการต่อเรือเก็บขยะ จำนวน 2 ลำ มูลค่างานรวมกว่า 42 ล้านบาทแล้ว ล่าสุดได้จัดพิธีวางกระดูกงูเรือเก็บขยะ ขนาดความยาวตลอดลำ 15.3 เมตร โดยรูปแบบของเรือออกแบบสำหรับการเก็บขยะในทะเลและชายฝั่ง และสามารถทำการจัดเก็บและบรรทุกขยะได้ถึง 2.5 ตัน ได้อย่างปลอดภัย
พร้อมระบบเก็บและกำจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลในแม่น้ำหรือทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพในการย่อยสลายคราบน้ำมัน ซึ่งสามารถย่อยสลายคราบน้ำมันได้ทั้งผิวน้ำ ก้นทะเล และชายหาดจากพลังของจุลินทรีย์ โครงการต่อเรือชุดนี้เป็นโครงการที่บริษัทฯ มีความภาคภูมิใจ เนื่องจากได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมทางน้ำให้ประเทศไทยให้ยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ ASIMAR มีผลงานการซ่อมเรือเฉลี่ยปีละ 80 ลำ และมีผลงานต่อเรือมาแล้วมากกว่า 100 ลำ โดยผลงานที่ภาคภูมิใจ ได้แก่ ผลงานต่อเรือตรวจการณ์ปืน ความยาว 180 ฟุต ให้กับกองทัพเรือ จำนวน 2 ลำ เรือดันและลากจูงเอนกประสงค์ให้แก่การท่าเรือแห่งประเทศไทยจำนวน 3 ลำ เรือโดยสารอลูมิเนียมคาทามารานความเร็วสูงให้แก่ บริษัท เรือเร็วลมพระยา จำกัด จำนวน 2 ลำ เรือโดยสารปรับอากาศให้แก่ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด จำนวน 4 ลำ เรือกำจัดขยะในลำคลองขนาดเล็กให้แก่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และเรือกำจัดผักตบชวาและวัชพืชให้กับกรมโยธาธิการและผังเมืองมากกว่า 16 ลำ
จากประสบการณ์การจัดสร้างเรือ บริษัทจึงมีความมั่นใจที่จะบริหารจัดการโครงการต่อเรือนี้ให้สำเร็จลุล่วงด้วยดี ทั้งในด้านคุณภาพของการสร้างเรือที่ไม่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสุขอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน
"ต้องขอขอบคุณกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่เล็งเห็นปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมทางทะเล และได้มีโครงการนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย คณะผู้บริหารและพนักงานทุกคนรู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในโครงการต่อเรือเก็บขยะขนาดความยาวตลอดลำ 15.3 เมตร จำนวน 2 ลำนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อสิ่งแวดล้อมของเราทุกคนต่อไป" นายสุรเดช กล่าว
ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบัน มีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้มีอัตราการผลิตเพื่ออุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นและก่อให้เกิดปัญหาขยะมูลฝอยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุก ๆ ปี โดยมีขยะบางส่วนปะปนลงแม่น้ำลำคลองและไหลลงสู่ทะเลในที่สุด ปัญหาขยะในท้องทะเลเป็นปัญหาใหญ่ นอกจากจะก่อให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์ สัตว์ พืช และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลแล้ว ยังสามารถสะสมความเป็นพิษในสิ่งแวดล้อม และห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำและสิ่งแวดล้อมทางทะเล รวมถึง ส่งผลกระทบต่อมนุษย์ในที่สุด ปัจจุบันมีขยะสะสมอยู่ในทะเลเป็นปริมาณมาก โดยเฉพาะเศษพลาสติกที่ธรรมชาติไม่สามารถย่อยได้เองตามธรรมชาติจึงจำเป็นต้องใช้การจัดเก็บออกจากทะเลเพื่อนำไปบำบัดต่อไป
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เล็งเห็นถึงความสำคัญในการจัดเก็บขยะในทะเล เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงได้ว่า ASIMAR ทำการต่อสร้างเรือเก็บขยะ 2 ลำนี้ เพื่อใช้ในภารกิจจัดเก็บขยะในทะเล และเพื่อสนับสนุนกิจกรรมการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งด้านอื่นๆ อีกด้วย โดยโครงการต่อเรือลำนี้ นอกจากจะเกิดประโยชน์กับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมการต่อเรือในประเทศ และเกิดการพัฒนาเทคโนโลยีของคนไทย ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมอีกด้วย