ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 145 จุดเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมั่นใจว่าทางการสหรัฐจะสามารถแก้ไขวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อและตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกค้ากลุ่มซับไพรม์ได้ หลังจากการประชุมระหว่างประธานธนาคารกลางสหรัฐและรมว.คลังสหรัฐออกมาเป็นที่น่าพอใจ นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงนับเป็นอีกปัจจัยที่หนุนดาวโจนส์พุ่งขึ้นเช่นกัน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 145.27 จุด หรือ 1.11% ปิดที่ 13,236.13 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 16.93 จุด หรือ 1.17% ปิดที่ 1,464.05 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 31.50 จุด หรือ 1.25% ปิดที่ 2,552.80 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 3.29 พันล้านหุ้น เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.95 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 4 ต่อ 1
นายสก็อตต์ เว็น นักวิเคราะห์จากเอจีเอ็ดเวิร์ด แอนด์ ซันส์ กล่าวว่า "นอกเหนือจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง 31 เซนต์ แตะที่ระดับ 69.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว ตลาดยังขานรับอัตราผลตอบแทนตั๋วเงินคลังประเภท 3 เดือนที่ปรับตัวลดลงแตะระดับ 3.66% จากระดับ 3.59% หลังจากที่นักลงทุนปลีกตัวออกจากตลาดพันธบัตรและหันเข้าเทรดในตลาดหุ้นมากขึ้น"
"นักลงทุนเริ่มตระหนักว่าแม้ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อหลายวันก่อน แต่ปัจจัยพื้นฐานในตลาดยังแข็งแกร่งและยังน่าดึงดูดใจ" นายเว็นกล่าว
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายคริสโตเฟอร์ ด็อดด์ คณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐเปิดเผยว่า นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าเขาจะใช้ "มาตรการที่มีอยู่ทั้งหมด" เพื่อบรรเทาความตื่นตระหนกและพลิกฟื้นวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อและตลาดซับไพรม์ของสหรัฐ
โดยการประชุมเฉพาะกิจระหว่างนายเบอร์นันเก้และนายเฮนรี่ พอลสัน รมว.คลังสหรัฐครั้งนี้ออกมา"เป็นบวก" นอกจากนี้ ด็อดด์ได้กล่าวชื่นชมเฟดที่ได้ดำเนินการหลายๆด้าน รวมถึงการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบและปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน
"นักลงทุนเชื่อว่ามาตรการที่เฟดนำมาใช้น่าจะได้ผล หลังจากมีข่าวว่าธนาคารยักษ์ใหญ่ 4 แห่งของสหรัฐ ได้แก่ ซิตี้กรุ๊ป เจพีมอร์แกน แบงค์ออฟอเมริกา และธนาคารวาโชเวีย ได้กู้ยืมเงินจากเฟดแห่งละ 500 ล้านดอลลาร์ ภายหลังจากเฟดปรับอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลง 0.50%" นายเว็นกล่าว
ทั้งนี้ หุ้นไนเม็กซ์ โฮลดิ้งส์ พุ่งขึ้น 6.1% หลังจากนักวิเคราะห์ของดอยช์แบงค์ประกาศเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นของไนเม็กซ์ ขณะที่หุ้นเอ็มจีเอ็ม มิราจ ดีดขึ้น 8.9% จากข่าวที่ว่าบริษัทกำลังทำข้อตกลงทางธุรกิจกับบริษัทดูไบ เวิลด์ และหุ้นรีโอตินโต้ทะยานขึ้น 6.1%
ส่วนหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านดีดตัวขึ้นจากแรงซื้อ โดยหุ้นโทลล์ บราเธอร์สพุ่งขึ้น 5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่สอดคล้องกับที่ตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--