นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ถึงอ่อนตัวลง จากความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 ทำให้กดดันการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ จากหลายสถานการณ์ที่ยังมีความไม่แน่นอน ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ปรับตัวขึ้นได้ดี หลังตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่นออกมาดีกว่าคาด
อย่างไรก็ดีให้ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของทั่วโลกที่จะทยอยออกมา ซึ่งโดยรวมทางฝั่งยุโรปน่าจะทรงตัว แต่ฝั่งสหรัฐฯน่าจะออกมาดีขึ้น อีกทั้งติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ขณะนี้ยังไม่ออกมา หากไม่ออกมาก็จะเป็นความเสี่ยงในระยะถัดไป
พร้อมให้แนวรับ 1,320 ถัดไป 1,305-1,300 จุด ส่วนแนวต้าน 1,330-1,340 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (31 ก.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,428.32 จุด เพิ่มขึ้น 114.67 จุด (+0.44%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,271.12 จุด เพิ่มขึ้น 24.90 จุด (+0.77%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,745.27 จุด เพิ่มขึ้น 157.46 จุด (+1.49%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 237.58 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิด เพิ่มขึ้น 22.17 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 28.54 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 22.07 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.28 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 7.29 จุด, ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 8.74 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (31 ก.ค.63) 1,328.53 จุด เพิ่มขึ้น 12.79 จุด (+0.97%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,150.08 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 ก.ค.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (31 ก.ค.63) ปิดที่ 40.27 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ หรือ 0.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (31 ก.ค.) อยู่ที่ -0.48 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.23 อ่อนค่าตามภูมิภาค ตลาดรอติดตามประชุมกนง.-ตัวเลขศก.สหรัฐฯ
- ลูกหนี้กลุ่มเช่าซื้อรถยนต์-จำนำทะเบียนรถ ที่เข้าโครงการพักชำระหนี้ 3 เดือน เริ่มกลับมาชำระหนี้แล้ว "เมืองไทยลิสซิ่ง" แจงจนถึงกลางเดือนก.ค. มีลูกค้าราว 40% ที่กลับมา ชำระตามปกติ ย้ำไร้กังวลปัญหาหนี้เสีย เหตุผู้เข้าโครงการพักหนี้มีน้อย ด้าน "กรุงศรี" เผยกลับมาชำระแล้วกว่า 70-80% ขณะ "ซีไอเอ็มบีไทย ออโต้" ระบุลูกหนี้ที่ขอเข้าโครงการ พักชำระเริ่มน้อยลง ด้านธนาคารออมสินเปิดหน้าบุกธุรกิจนอนแบงก์เต็มตัว ขีดเส้นอีก 6 เดือน ลงขันร่วมลงทุนปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนดอกเบี้ยแค่ 8-10% พร้อมเป็นผู้นำกดดอกเบี้ยเงินกู้ในธุรกิจลีสซิ่ง ช่วยคนรากหญ้าไม่ให้ถูกโขกดอกเบี้ย
- นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้ร่วมกับกว่า 40 องค์กร จัดโครงการประกวดสุดยอดหมู่บ้านท่องเที่ยวชนบทและสุดยอดหมู่บ้านโอท็อป เพื่อการท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมและผลักดันให้การท่องเที่ยวชุมชนมีความเข้มแข็งสามารถสร้างงานพึ่งพาตนเองได้จนถึงเดือน ก.ย. 63 โดยผู้ชนะจากการประกวดครั้งนี้นอกจากจะได้รับโล่รางวัลแล้วยังจะขยายผลทางการตลาดและขายอย่างเป็นรูปธรรมผ่านสื่อต่าง ๆ รวมทั้งการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ระดับโลกแอร์บีเอ็นบีด้วย
- นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าว เกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหา โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง (ตลิ่งชัน-บางชื่อ-รังสิต) ว่า เมื่อสัปดาห์ ที่ผ่านมา ได้มีการหารือร่วมกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) กรมการขนส่งทางราง(ขร.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากโครงการ ดังกล่าวมีความล่าช้าในส่วนของการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ โดยจากกำหนดการเดิมที่จะมีการเปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการเดือนมีนาคม 2564 และเปิดอย่างเป็นทางการช่วยปลายปี 2564 แต่เนื่องจากเอกชนผู้รับเหมางานขอขยายระยะเวลาก่อสร้างมากกว่า 500 วัน ขณะที่ทาง การรถไฟฯ อนุมัติขยายระยะเวลาต่อได้เพียง 87 วันเท่านั้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- WICE (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้าสูงสุด IAA Consensus 3.90 บาท เป็นหนึ่งผู้ประกอบการที่ได้ประโยชน์จาก โควิด-19 กระแส WFH หนุนยอดส่งออกสินค้าโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดโดยเฉพาะการขนส่งผ่าน Air freight และดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นยังหนุนให้ธุรกิจขนส่งข้ามประเทศ (CBS) พลิกมีกำไรจากที่ขาดทุนสุทธิในปีที่ผ่านมาปัจจัยนี้จะช่วยหนุนให้งบ Q2/63 มีโอกาสเพิ่มขึ้นทำ new high
- DRT (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 6.60 บาท คาดกำไรปกติ Q2/63 +2% Q-Q, +30% Y-Y จากความต้องการซ่อมแซมบ้านที่สูง และสอดคล้องกับกลุ่ม Home Improvement ที่ประกาศกำไรออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด พร้อมคาดแนวโน้ม H2/63 แม้คาดว่าจะอ่อนตัวลง H-H จาก Low Season ในไตรมาส 3 แต่ในแง่ Y-Y คาดว่ายังสามารถเติบโตได้ดี ขณะที่จุดเด่นคือ Valuation ที่ถูกโดยซื้อขายที่ 2564PER เพียง 10.4 เท่าและให้ Dividend Yield 6.6% ต่อปี
- MTC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 70 เป็น Top Pick คาดกำไรปกติ Q2/63 -1% Q-Q แต่ +20% Y-Y เป็นระดับที่แข็งแกร่งจากทั้งการตั้งสำรอง ECL ที่ลดลงหลังใช้มาตรฐาน TFRS9 ขณะที่สินเชื่อยังเติบโตได้ 15% Y-Y จากการขยายสาขา ขณะที่ NPL คาดยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ที่ 1.18% จากการอนุมัติสินเชื่อที่ระมัดระวังมากขึ้น แนวโน้ม H2/63 คาดยังเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยคาดกำไรปกติปี 2563 +15% Y-Y และเร่งตัวขึ้นเป็น +24% Y-Y ในปี 2564