นายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (FIRM) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (FTREIT) เปิดเผยว่า คณะกรรมการผู้จัดการกองทรัสต์ เตรียมจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ FTREIT ครั้งที่ 1/2563 ในวันที่ 11 สิงหาคม 2563 เพื่อขอมติจากผู้ถือหน่วยทรัสต์ในการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินศักยภาพสูง มูลค่าราว 6,000 ล้านบาท จากกลุ่มบมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT) และทรัพย์สินนอกกลุ่มจาก บริษัท ชัยอนันต์-บางพลี พาร์คแลนด์ จำกัด (CBP)
ทั้งนี้ มูลค่าลงทุนทรัพย์สินดังกล่าว แบ่งเป็น ทรัพย์สินของ FPT ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ทางด้านอุตสาหกรรม และโลจิสติกส์ จากกลุ่ม FPT มูลค่าการลงทุนประมาณ 3,879 ล้านบาท และทรัพย์สินนอกกลุ่มจาก บริษัท ชัยอนันต์-บางพลี พาร์คแลนด์ จำกัด มูลค่าการลงทุนประมาณ 2,062 ล้านบาท รวมถึงค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในการเข้าลงทุนอีกบางส่วน
โดยทรัพย์สินทั้งหมดที่ FTREIT ที่จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมประกอบด้วย อาคารประเภทโรงงานอุตสาหกรรม 23 ยูนิต คลังสินค้า 42 ยูนิต คิดเป็นพื้นที่รวม 284,609 ตารางเมตร บนที่ดินกว่า 405 ไร่ แบ่งเป็น ทรัพย์สินของกลุ่ม FPT ประกอบด้วย อาคารประเภทโรงงาน 23 ยูนิต และคลังสินค้า 33 ยูนิต คิดเป็นพื้นที่รวม 159,975 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี ระยอง อยุธยา และ ปทุมธานี ส่วนทรัพย์สินจาก CBP ประกอบด้วยสิทธิการเช่าช่วงในที่ดินและอาคารคลังสินค้าระยะเวลา 19 ปี จำนวนทั้งสิ้น 9 ยูนิต พื้นที่รวม 124,634 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในพื้นที่บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
สำหรับจุดเด่นของการเข้าลงทุนในครั้งนี้ ได้แก่
1.ทรัพย์สินตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมที่สำคัญ มีเมกะโปรเจคทางด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานของรัฐบาลที่ส่งเสริมการเติบโตของความต้องการคลังสินค้า และโรงงาน
2.ทำให้พอร์ตโฟลิโอโดยรวมมีการกระจายความเสี่ยงทางด้านรายได้จากแต่ละอุตสาหกรรมของผู้เช่า สัญชาติผู้เช่าที่หลากหลายขึ้น และการที่กองทรัสต์มีทรัพย์สินในพื้นที่บางพลีเพิ่มขึ้น ซึ่งพื้นที่บางพลีเป็นพื้นที่ที่มีการเติบโตทางด้านความต้องการพื้นที่คลังสินค้าจากกลุ่มอีคอมเมิร์ซ และโลจิสติกส์ ขณะที่อัตราค่าเช่าก็มีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
3.การเข้าลงทุนครั้งนี้ทำให้ FTREIT ยังคงเป็นกองทรัสต์ที่มีพื้นที่ให้เช่า และมูลค่าทรัพย์สินสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของกองทรัสต์อุตสาหกรรมในประเทศไทย
4.คาดการณ์ได้ว่าผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์จะเพิ่มสูงขึ้น
อย่างไรก็ตามภายหลังการเข้าลงทุน กองทรัสต์จะมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจาก 578 ยูนิต เป็น 643 ยูนิต พื้นที่ให้เช่าเติบโตจากประมาณ 1.8 ล้านตารางเมตร เป็นประมาณ 2.0 ล้านตารางเมตร อัตราการเช่าพื้นที่เติบโตจากประมาณ 82% เป็น ประมาณ 84% อายุสัญญาเช่าเฉลี่ยเติบโตจาก 2.2 ปี เป็น 2.3 ปี มูลค่าทรัพย์สินเติบโตจากกว่า 39,000 ล้านบาทเป็นกว่า 45,000 ล้านบาท
"การลงทุนครั้งสำคัญนี้จะช่วยสร้างมูลค่าพอร์ตโฟลิโอของกองทรัสต์ FTREIT ให้เติบโตขึ้น ด้วยมูลค่าสินทรัพย์รวมทั้งสิ้นกว่า 45,000 ล้านบาท โดยที่ผ่านมา FTREIT ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก จากการที่ผลประกอบการของกองทรัสต์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ A (Stable Outlook) จาก ทริสเรทติ้ง ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ และ ผู้ถือหุ้นกู้ของกองทรัสต์"นายพีระพัฒน์ กล่าว