สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (29 - 31 กรกฎาคม 2563) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ในสัปดาห์นี้ (3 วันทำการ) มีมูลค่ารวม 190,598.25 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 63,532.75 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 55% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 66% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 126,165 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 46,718 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 11,126 ล้านบาท หรือคิดเป็น 25% และ 6% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB24DB (อายุ 4.4 ปี) LB386A (อายุ 17.9 ปี) และ LB29DA (อายุ 9.4 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 13,230 ล้านบาท 7,003 ล้านบาท และ 5,417 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รุ่น TRUE217A (BBB+) มูลค่าการซื้อขาย 1,446 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) รุ่น TBEV213B (AA) มูลค่าการซื้อขาย 1,010 ล้านบาท และหุ้นกู้ของ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รุ่น LHFG217A (Non-Rated) มูลค่าการซื้อขาย 976 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลพันธบัตรปรับลดลงเล็กน้อย ประมาณ 1-3 bps. ในตราสารระยะยาว ด้านปัจจัยต่างประเทศ ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เมื่อวันที่ 30 ก.ค. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยประธาน Fed ได้กล่าวว่า ยังไม่มีแผนที่จะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเร็วๆ นี้ และพร้อมที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานตัวเลขประมาณการ GDP ครั้งที่ 1 ประจำไตรมาส 2/2563 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ หดตัวลง 32.9% ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบ 70 ปี ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะหดตัวลง 34.7% ทั้งนี้ตลาดติดตามการประชุม กนง. ในสัปดาห์หน้า
สัปดาห์ที่ผ่านมา (29 ก.ค. 63 - 31 ก.ค. 63) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ +4,639 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิ ในตราสารหนี้ระยะสั้น (ST) (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) -1,199 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (LT) (อายุมากกว่า 1 ปี) + 5,837 ล้านบาท และไม่มีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (29 - 31 ก.ค. 63) (20 - 24 ก.ค. 63) (%) (1 ม.ค. - 31 ก.ค. 63) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 190,598.25 427,728.97 -55.44% 12,831,258.35 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 63,532.75 85,545.79 -25.73% 89,729.08 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 117.67 117.45 0.19% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 104.50 104.43 0.07% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (31 ก.ค. 63) 0.45 0.49 0.50 0.55 0.78 1.27 1.52 2.07 สัปดาห์ก่อนหน้า (24 ก.ค. 63) 0.44 0.49 0.50 0.56 0.81 1.30 1.55 2.07 เปลี่ยนแปลง (basis point) 1 0 0 -1 -3 -3 -3 0 หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้