หุ้น BH ราคาอ่อนตัวลง 2.71% มาอยู่ที่ 107.50 บาท ลดลง 3.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 124.93 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.21 น. โดยเปิดตลาดที่ 106 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 108 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 105.50 บาท
บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะให้"ชะลอการลงทุน"หุ้น บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) ไปก่อน แม้ว่า BH จะประกาศจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีแรกที่หุ้นละ 1.15 บาท XD 19 ส.ค. นี้ โดย BH จัดเป็นรพ. ที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด-19 มากสุด เนื่องจากรายได้หลักมาจากลูกค้าต่างชาติที่ Fly-in มารับการรักษาโดยตรง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 55% ของรายได้กิจการรพ. แม้ในเดือนก.ค. ภาครัฐปลดล็อคให้ชาวต่างชาติเดินทางมารักษาในไทยได้ แต่ขบวนการต่างๆ ในทางปฏิบัติยังทำได้ยาก เนื่องจากประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ได้ โดยประเทศที่สามารถเดินทางมารักษาในไทยได้สะดวกมีเพียง พม่า ลาว และกัมพูชาเท่านั้น
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าผลประกอบการของ BH ผ่านจุดเลวร้ายสุดในงวดไตรมาส 2/63 ได้แล้ว โดยในครึ่งปีหลัง คาดหวังการฟื้นตัวหลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และสถานการณ์ในไทยเริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติ แต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกยังไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้งวดไตรมาส 3/63 จำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่จะทยอยเริ่มเดินทางมารับรักษาที่ BH ยังมีน้อยอยู่
BH กำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 44 ล้านบาท ลดลงราว 94% ทั้ง YoY และ QoQ เกิดจากผลกระทบโควิด-19 ที่ได้รับผลเต็ม ๆ จากมาตรการล็อกดาวน์ในช่วง เม.ย. ถึง พ.ค. 63 โดยสถานการณ์เริ่มดีขึ้นในมิ.ย. ทำให้ผู้ป่วยชาวไทย และผู้ป่วยต่างชาติที่อาศัยอยู่ที่ประเทศไทยทยอยกลับมาใช้บริการตามปกติแล้ว แต่ผู้ป่วยต่างชาติที่บินมารักษาโดยตรงยังไม่สามารถเดินทางมารักษาได้ ทำให้รายได้กิจการรพ. ลดลง 43.4% YoY โดยรายได้จากผู้ป่วยไทยลดลง 13% YoY ขณะรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติลดลงถึง 58.9% YoY ฉุดให้สัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติลดลงจาก 65.3% ในงวด 1Q63 เหลือ 48.1%
ขณะต้นทุนกิจการโรงพยาบาล ลดลงเพียง 34.5% YoY ค่าใช้จ่ายขายและบริหารลดลงเพียง 15.1% YoY