โบรกฯแนะซื้อ TTA รับผลดีค่าระวางดีต่อเนื่องอีก 1-2 ปีหนุนผลประกอบการโต

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 15, 2007 15:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          โบรกฯแนะซื้อหุ้น TTA ยังมีมุมมองเป็นบวกต่อเรือเทกอง คาดอัตราค่าระวางเรือจะคงดีต่อเนื่องในช่วงปี 50-51 ชี้ให้เห็นว่าการขยายตัวของกำไรจะต่อเนื่องในอนาคต  ขณะที่ดีมานด์ในการขนถ่ายสินค้าโดยเฉพาะจีน อินเดีย ยังมีอยู่สูง นอกจากนั้นการที่ TTA ทำสัญญาล่วงหน้าไม่มาก ทำให้ค่าระวางส่วนใหญ่อิงราคา spot ทำให้ได้ประโยชน์จากค่าระวางเรือที่ปรับตัวสูงขึ้น
โบรกเกอร์ คำแนะนำ มูลค่าพื้นฐาน(บาท)
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ซื้อ 64
บล.เกียรตินาคิน ซื้อ 52
บล.พัฒนสิน ซื้อเก็งกำไร เทรดตาม PE
บล.ฟาร์อีสท์ ซื้อ 56.50
บล.นครหลวงไทย ซื้อเมื่ออ่อนตัว 51.95
บล.ไทยพาณิชย์ ซื้อ 66
นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการเศรษฐกิจและกลยุทธ์ สถาบันวิจัย บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) แนะซื้อหุ้น TTA ในเชิงพื้นฐานปีนี้คาดว่ากำไรน่าจะยังดีกว่าปีที่แล้ว โดยประเมินไว้ที่ 4,000 ล้านบาท จากปีที่แล้ว 3,500 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 6.30 บาท หากราคาหุ้น 50 บาท PE 8 เท่า ยังซื้อได้อยู่
ทั้งนี้ คาดว่าอัตราค่าระวางจะคงดีต่อเนื่องในช่วงปี 2550-2551 ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นว่าการขยายตัวของกำไรจะต่อเนื่องไปในอนาคต เพราะ TTA ได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากดัชนี Baltic Dry Index (BDI) ที่ปรับขึ้น ซึ่งเรือเทกองจะได้รับประโยชน์สูงปัจจัยนี้เป็นตัวหนุน
"ถ้าเทียบซับพลายกับดีมานด์ของเรือ ซัพพลายยังคงไม่เพิ่มขึ้นมากเท่าไรขณะเดียวกันดีมานด์ในการที่ขนถ่ายสินค้าในภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะเศษเหล็กก็ยังใช้กันอยู่ คาดว่าดีมานด์ทางด้านจีน อินเดีย ก็ยัง OK ซึ่ง TTA จะได้ประโยชน์ถึงปีหน้าตัวนี้ก็น่าจะยังเป็นตัวที่ดีในปีนี้และปีหน้า" นายอดิศักดิ์ กล่าว
นายอดิศักดิ์ ให้ราคาเป้าหมาย TTA ใน 12 เดือนข้างหน้าที่ 64 บาท
ด้านนายเบญจพล สุทธิ์วณิช เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน แนะซื้อ TTA ประเมินที่ 52 บาท ยังมองเป็นปัจจัยบวกในเรื่องซัพพลายและดีมานด์ ซัพพลายอาจจะมีช็อตบ้างปีนี้และปีหน้า เรือใหม่ที่คิดว่าจะเข้าอาจล่าช้าไป ขณะที่ดีมานด์ของจีนมีความต้องการสูงโดยเฉพาะจากกลุ่มถ่านหินและเหล็ก โดยเฉพาะถ่านหินจะมีการขนส่งที่ยาวนานขึ้นในเรือ 1 ลำ ทำให้ซัพพลายยิ่งลดลงไปอีก
ในส่วนของธุรกิจเมอร์เมดฯ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยนั้น ธุรกิจเรือขุดเจาะมีการขยายตัวค่อนข้างสูง ขณะที่ปริมาณเรือขุดเจาะในตลาดโลกมีค่อนข้างน้อยไม่ค่อยเพียงพอกับความต้องการเช่นกัน
ปัจจัยบวกอีกประการคือในส่วนของผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นธุรกิจเดินเรือที่ฮ่องกงจะเข้ามาซื้อหุ้น TTA ประมาณ 5% เป็นสิ่งที่จะบอกว่าในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าธุรกิจยังดีอยู่ และการลงทุนของบริษัทเดินเรือเทกองขนาดใหญ่ของต่างประเทศมาลงทุนในเรือเทกองที่ยังมีมูลค่าของหุ้นยังต่ำอยู่เป็นการลงทุนในลักษณะ Indirect เป็นสัญญาณว่า 2-3 ปีข้างหน้าต้องมองแล้วว่าธุรกิจเรือดีจริง มองเรือเทกองยังมีประโยชน์และ TTA มีสัญญาล่วงหน้าแค่ 1 ใน 3 ขณะที่อีก 2 ใน 3 อิงราคา spot ดังนั้น TTA จะได้รับประโยชน์มากเวลาค่าระวางเรือขึ้น
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้บังคับบัญชาสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน กล่าวว่า หุ้นเรือเทกองได้ประโยชน์จากดัชนีค่าระวางเรือที่ขยับสูงขึ้น ซึ่ง TTA จะได้ประโยชน์มากกว่าตัวอื่นเพราะจำนวนเรือไม่ได้ลดลง ตัว spot rate ที่ทำ Forword ไว้น้อย TTA มีโอกาสที่จะกำไรที่ดีขึ้นราคาหุ้นของ TTA ก็ยังอยู่ที่อนาคตของดัชนีค่าระวางเรือและธุรกิจของเมอร์เมดฯ
"ยังมอง earning ของเรือปีนี้น่าจะดีในเชิงของดีมานด์ซัพพลายที่ยังขาดแคลนน่าจะทำให้ราคาขยับสูงขึ้น เพียงแต่ PE ขึ้นไปเยอะแต่ก็ขึ้นอยู่กับค่าระวางเรือด้วย ส่วนใหญ่คนเทรดตาม BDI เป็นหลัก" นายถนอมศักดิ์ กล่าว
นักวิเคราะห์ บล.พัฒนสินกล่าวว่า ราคาหุ้น TTA จะ rate ตาม PE ถ้าราคา 50 บาท PE 7 เท่ากว่า,54 บาท PE 8 เท่า,60 บาท PE 9 เท่า หรือ 68 บาท PE 10 เท่าก็เป็นไปได้ ถามว่ามีโอกาสขึ้นไปได้หรือไม่ก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปถึง PE 10 เท่า ซึ่งวิ่งตามกันไปตามภูมิภาค
นักวิเคราะห์ บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่า ปกติในไตรมาส 3 เป็นช่วง low season ของเรือเทกอง แต่ปรากฎว่าในช่วงเริ่มต้นของไตรมาสนี้ดัชนี BDI ก็ยังทำนิวไฮอยู่ ปัจจัยหลักมาจากการขาดแคลนซัพพลายเรื่องของเรือใหม่ ขณะที่สถานการณ์ความแออัดในเรื่องของท่าเรือในต่างประเทศขณะนี้ยังไม่ทุเลาลง จากที่เคยคาดว่าไตรมาส 3 ปกติจะเป็นช่วง low ของธุรกิจเรือเทกองก็จะมีข้อยกเว้นในปีนี้
ขณะที่ไตรมาส 4/50 กับไตรมาส 1/51 ที่จะถึงข้างหน้าก็จะเป็นช่วง High season ของเรือเทกอง แสดงว่าอย่างน้อย 3 ไตรมาสข้างหน้าคือไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4/50 และไตรมาส 1/51 ธุรกิจเดินเรือก็น่าจะยังดีอยู่
สำหรับ TTA ด้วยกลยุทธ์ในการจัดสรรเรือในส่วนของ Liner ที่ให้เช่าแบบมีระยะเวลา TTA จะได้เปรียบที่สุดในกลุ่มเพราะมีสัดส่วนเรือให้เช่าแบบมีระยะเวลาแค่ 31% ส่วนที่เหลือก็จะแปรผันตาม BDI จึงมอง TTA ยังดีให้ราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 56.50 บาท
"ยังแนะนำให้ซื้อ ถึงแม้ผลประกอบการไม่ได้แปรผันตาม BDI แต่โดยปกติผลประกอบการจะมี Lag time กับ BDI อย่างน้อย 3-6 เดือน เพราะจะมีพวก Liner ที่มีอายุสัญญาราว 2-4 เดือนจะสามารถเจรจาปรับเพิ่มค่าระวางได้ ส่วนเมอร์เมดฯ ฝ่ายวิจัยได้ถ่วงน้ำหนัก PE ในอุตสาหกรรมวิศกรรมใต้น้ำเข้าไปแล้วทำให้ PE ของ TTA เดิมใช้ที่ 7.3 เป็น 8.3 เท่า โดยรวมจึงปรับราคาขึ้นไปเป็น 56.50 บาท" นักวิเคราะห์ กล่าว
นักวิเคราะห์ บล.นครหลวงไทย ระบุว่า ในแง่พื้นฐานเรือเทกองตอนนี้แนวโน้มค่อนข้างดี แนวโน้มผลประกอบการยังปรับตัวเพิ่มทั้งรายไตรมาสและรายปี โดยดัชนี BDI ที่ปรับขึ้นค่อนข้ามากแสดงถึงค่าระวางในอนาคตที่ดี และแนวโน้มในช่วงไตรมาส 2-3 ก็ยังดีอยู่ แต่ต้องดูจังหวะในการเข้าซื้อเพราะราคาขณะนี้ใกล้เคียงกับราคาที่เหมาะสมแล้ว ควรเข้าซื้อช่วงที่ดัชนี BDI อ่อนตัว
บล.ไทยพาณิชย์ ปรับคำแนะนำสำหรับ TTA ขึ้นจาก “Outperform" สู่ “ซื้อ" และเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 45.5 บาท สู่ 66 บาท โดยอิงกับประมาณการ EPS ปีบัญชี 2551 ที่ปรับปรุงใหม่ได้ที่ 7.37 บาทต่อหุ้น และPER ปี 2551 ของหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดภูมิภาคที่ 9 เท่า (เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 6.5 เท่า)
"เราปรับประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักในปีบัญชี 2550 และปีบัญชี 2551 ของ TTA เพิ่มขึ้นประมาณ 6% เนื่องจากปรับสมมติฐานอัตราค่าเช่าเรือเพิ่มขึ้นจากระดับ 13,550 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน สู่ระดับ 14,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน เพื่อสะท้อนถึงอัตราค่าเช่าเรือที่ดีกว่าคาดในช่วง 9 เดือนแรกของปีบัญชี 2550"บล.ไทยพาณิชย์ ระบุ

แท็ก อินเดีย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ