(เพิ่มเติม) สมาคมนักวิเคราะห์ฯ ปรับคาดการณ์ดัชนี SET สิ้นปีนี้ที่ 871 จากเดิม 880

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 23, 2007 16:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ระบุว่า นักวิเคราะห์เกือบทุกรายมองว่าปัญหาซับไพร์มจะยังส่งผลต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย แต่ความรุนแรงในระยะต่อไปจะลดลง เนื่องจากตลาดได้ตอบรับไปแล้ว และสหรัฐกำลังเร่งแก้ไขสถานการณ์อยู่ โดยสมาคมฯ ได้ปรับประมาณการดัชนี SET สิ้นปีนี้เหลือ 871 จุด ซึ่งลดลงเพียงเล็กน้อยจากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 880 จุด
นอกจากนั้น ยังได้ปรับเป้าหมายคาดการณ์ดัชนี SET ปลายปี 51 ลดลงเล็กน้อยเช่นกัน โดยคาดว่าจะอยู่ที่เฉลี่ย 1,000 จุด จากคาดการณ์เดิมที่ 1,033 จุด
ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ก็ไม่มีการปรับประมาณการกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้และปีหน้าจากผลของซับไพร์มแต่อย่างใด เนื่องจากเห็นว่าเป็นผลกระทบในระยะสั้น และส่งผลกระทบในวงจำกัด
อีกทั้งมองว่าปัญหาซับไพร์มจะมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นโดยรวมมากกว่าผลต่อระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากจะมีการเทขายหุ้นนักลงทุนต่างชาติเพื่อเสริมสภาพคล่อง และหากเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวก็อาจส่งผลต่อภาวะการส่งออกต่อเนื่องไปยังเศรษฐกิจโดยรวม
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เชื่อว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาหลังประกาศวันเลือกตั้ง เพราะทุกครั้งที่มีการกำหนดวันเลือกตั้ง ตลาดหุ้นมักจะมีปฏิกิริยาเสมอ และจะมาล่วงหน้า
การซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติรอบนี้ ตั้งแต่ 13 ม.ค. - 26 ก.ค. มูลค่าอยู่ที่ 1.38 แสนล้านบาท ตอนนั้นดัชนี SET ปรับขึ้นไปประมาณ 270 จุด มาอยู่ที่ 610 จุด และจากสถิติที่ผ่านมาดัชนีจะลงไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งที่ได้ปรับขึ้นไป และช่วงที่ลงมา 4 สัปดาห์ต่อเนื่อง ลดลงไปแล้ว 160 จุด จึงยังเป็นไปตามวงจรและสถิติการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้แรงขายต่างชาติอาจยังมีอยู่บ้างและจะต่อเนื่องไป 2-4 สัปดาห์ หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านบาท แต่หลังจากนั้นน่าจะปรับตัวดีขึ้น เพราะกำลังจะมีการเลือกตั้ง ซึ่งหากมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งสถานการณ์ต่างๆ น่าจะดีขึ้น
"เมื่อมีการประกาศวันเลือกตั้ง นักลงทุนจะกลับมา เป็นปฏิกิริยาของมันเอง ตอนนี้หลายสำนักฟันธงแล้วว่าค่าเฉลี่ยสิ้นปีจะอยู่ที่ 871 จุด น่าจะเป็นจังหวะที่ดีที่เราจะเข้ามาหาโอกาสเก็บหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี" นายสมบัติ กล่าว
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ นักวิเคราะห์แนะนำให้ลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ราคามีความผันผวนน้อย ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโต รวมทั้งควรพิจารณาหุ้นที่จะได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ สำหรับหุ้นปันผลดีที่แนะนำตรงกันหลายสำนัก โดยมีประมาณการอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยแล้ว 6-8% ได้แก่ ADVANC, CCET, DCC, MCS, SCC, TISCO, TVO เป็นต้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ