ILM มั่นใจผลงาน H2/63 ดีขึ้นตามกิจกรรมเศรษฐกิจฟื้น หลัง H1/63 โควิดทำกำไรหด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 7, 2020 11:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 63 จะปรับตัวดีขึ้นจากครึ่งปีแรก ตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เริ่มกลับมาคึกคักมากขึ้น หลังรัฐบาลคลายล็อกมาตรการคุมเข้มเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมถึงทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ

ขณะที่บริษัทเตรียมเพิ่มหมวดสินค้าและเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ ๆ รวมไปถึงการขยายความร่วมมือกับพันธมิตร ควบคู่ไปกับการเดินหน้าลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร และสินค้าคงคลังอย่างต่อเนื่อง

"ปีนี้เป็นปีที่ยากลำบากสำหรับทุกคน แม้หลายฝ่ายจะประเมินว่า ภาพเศรษฐกิจไทยครึ่งหลังของปีนี้ มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ทยอยกลับมาคึกคัก แต่ขณะเดียวกันปัจจัยเสี่ยงด้านลบก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูงมาก ดังนั้น บริษัทจึงยังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง เพื่อผลักดันขีดความสามารถการทำกำไรให้เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง"นางสาวกฤษชนก กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 มีกำไรสุทธิ 14.5 ล้านบาท ลดลงจากกำไรสุทธิ 157.95 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ช่วงครึ่งแรกของปี 63 มีกำไรสุทธิ 132.68 ล้านบาท ลดลงจากกำไรสุทธิ 289.82 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน

นางสาวกฤษชนก กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 63 บริษัทมีรายได้รวม 4,080 ล้านบาท ลดลง 16.3% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยไตรมาส 2/63 ทำรายได้ 1,853 ล้านบาท ลดลง 23.6% เนื่องจากต้องปิดสาขาไปเกือบ 2 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.-16 พ.ค.63 จากการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ในครึ่งแรกของปี 63 ไว้ได้ในระดับสูงที่ 44.1% สูงขึ้นจาก 44.0% ในช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากใช้กลยุทธ์ปรับ Product Mix เพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายและอัตรากำไรสูงขึ้น ในขณะที่สินค้าหมวดโต๊ะเก้าอี้สำนักงาน (Home Office) และหมวดของตกแต่งบ้าน ตลอดจนอุปกรณ์จัดเก็บ เป็นที่ต้องการในตลาดมากขึ้น หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้มีการทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) เพิ่มขึ้น รวมถึงผู้บริโภคมีพฤติกรรมหันมาให้ความสนใจกับการตกแต่งบ้านมากขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทได้เดินหน้าควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง โดยค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารงาน (SG&A) ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1,515 ล้านบาท ลดลง 15.0% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน หลังจากไตรมาส 2/63 ค่าใช้จ่ายลดลงประมาณ 20% อยู่ที่ราว 707 ล้านบาท โดยบริษัทยังสามารถทำกำไรในไตรมาส 2/63 ได้ แม้ต้องปิดสาขาไปร่วม 2 เดือน จากแรงหนุนของยอดขายออนไลน์และโครงการที่อยู่อาศัยที่เติบโตได้อย่างโดดเด่น 375.1% และ 69.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ