นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า หากการลงประชามติการร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ในวันที่ 19 ส.ค.ผ่านไปได้ตามที่รัฐบาลคาดหวังจะทำให้มีความชัดเจนในเรื่องการเลือกตั้งซึ่งจะส่งผลดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในปลายปีนี้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ ตามมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศคาดหวัง แต่หากเกิดกรณีที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ดังกล่าวไม่ผ่านการลงประชามติก็เชื่อว่ารัฐบาลจะแก้ไขได้ด้วยการนำรัฐธรรมนูญฉบับอื่นมาปรับใช้แทนได้
"เชื่อว่าการเลือกตั้งจะต้องเกิดขึ้นแน่ แต่อยู่ที่ว่าจะเกิดขึ้นภายใต้รัฐธรรมนูญฉบันไหนเท่านั้น ซึ่งหากฉบับนี้ไม่ผ่านรัฐบาลจะมีการใช้ฉบับอื่นมาปรับใช้แทน เชื่อว่าหลังจากที่มีการเลือกตั้งน่าจะทำให้ผู้ลงทุนต่างประเทศเพิ่มความสนใจในการเข้ามาลงทุนมากขึ้นเอง"
นางภัทรียา กล่าว
นางภัทรียา ยอมรับว่า มีนักลงทุนต่างประเทศต้องการรอดูนโยบายของรัฐบาลใหม่ว่าจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการสานต่อโครงการจากรัฐบาลเดิม เช่น โครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่(เมกกะโปรเจกต์) และนักลงทุนที่ชะลอดูความชัดเจนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นกองทุนจากต่างประเทศซึ่งค่อนข้างอ่อนไหวต่อปัจจัยที่เกิดขึ้น และคงไม่สามารถสรุปได้ว่ามีเม็ดเงินจากกองทุนดังกล่าวจะมากน้อยเพียงใด
ทั้งนี้จากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้จัดโรดโชว์แก่นักลงทุนต่างประเทศ พบว่านักลงทุนดังกล่าวไม่ได้มีความกังวลในเรื่องปัจจัยการเมือง มีเพียงประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นที่ต้องการรอรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาก่อนจึงจะพิจารณาการลงทุน ส่วนประเทศอื่นยังมองว่าการเมืองไทยเริ่มมีเสถียรภาพที่ดีขึ้น และมั่นใจว่าประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งในปลายปีนี้
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/นิศารัตน์/กษมาพร โทร.0-2253-5050 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--