หุ้น CBG ราคาวิ่งขึ้น 4.76% มาอยู่ที่ 132 บาท เพิ่มขึ้น 6 บาท มูลค่าซื้อขาย 336.88 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.06 น. โดยเปิดตลาดที่ 132.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 134.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 132 บาท
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้นบมจ.คาราบาวกรุ๊ป (CBG) มองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ CBG และเชื่อว่ากำไรสุทธิจะทำระดับสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่องถึงไตรมาส 4/63 เป็นอย่างน้อย และมีโอกาสที่จะทำได้ต่อไปในปี 2564 เนื่องจากรายได้จาก C+LOCK ที่มีการออกรสชาติใหม่ และการส่งออกไปยัง CLMV ยังไม่รวมในประมาณการ และในไตรมาส 4/63 จะมีกำลังการผลิตใหม่ของโรงบรรจุขวดเพิ่มขึ้น 40% เป็น 4.2 ล้านขวด/วัน และบรรจุกระป๋องเพิ่มขึ้นอีก 30% เป็น 5.7 ล้านกระป๋อง/วัน ซึ่งจะทำให้รายได้ใน CLMV กลับมาเติบโตในอัตราเร่งได้จากปัจจุบันที่เต็มกำลังการผลิต รวมถึงเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งในจีน อีกทั้งประเทศส่งออกใหม่ที่ยังอยู่ระหว่างศึกษา ส่วนต้นทุนบรรจุภัณฑ์กระดาษลดลงจากโรงงานบรรจุภัณฑ์แห่งใหม่ของบริษัท
ทั้งนี้ อาจปรับประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 130-140 บาท ซึ่งจะมี Upside gain ราว 3-10% โดยคาดว่าราคาหุ้นจะตอบสนองเชิงบวกต่อผลประกอบการและแนวโน้มที่ยังเป็นเชิงบวก เชิงกลยุทธ์นักลงทุนอาจซื้อเก็งกำไร โดยมีจุดพิจารณาทำกำไรที่ราว 135 บาท+/-
CBG มีกำไรสุทธิในไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 881 ล้านบาท มีรายได้อื่น ๆ 32 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายเงินบริจากกองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด-19 สุทธิจากประโยชน์ทางภาษีราว 40 ล้านบาท ทำให้กำไรปกติอยู่ที่ 890 ล้านบาท (+14.8% QoQ, +69.7% YoY) ดีกว่าคาด 11% และทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 กำไรปกติในช่วงครึ่งปีแรก อยู่ที่ 1,665 ล้านบาท คิดเป็น 49.6% ของประมาณการทั้งปี
รายได้ในไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 4,508 ล้านบาท (+11.0% QoQ, +20.1% YoY) รายได้จากสินค้าแบรนด์ตัวเองเติบโต 13.6% YoY ซึ่งเป็นอัตราส่วนรายได้ในประเทศต่อต่างประเทศที่ 40 : 60