นักวิเคราะห์ชี้ตลาดหุ้นทั่วเอเชียยังอ่อนแอเช้านี้ จากวิกฤติซับไพรม์

          นักวิเคราะห์ญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ตลาดหุ้นทั่วภูมิภาคเอเชียปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกค้ากลุ่มซับไพรม์ในสหรัฐ รวมทั้งข่าวที่ว่าวาณิชธนกิจโกลด์แมน แซคส์ออกมายอมรับว่า 1 ในเฮดจ์ฟันด์ที่โกลด์แมน แซคส์บริหารอยู่นั้น ประสบภาวะขาดทุนอย่างหนักในตลาดซับไพรม์
          นายคัทสึฮิโกะ ฮิโรชิเกะ นักวิเคราะห์ด้านตลาดการเงินจากบริษัทเทรดเดอร์ส แอนด์ โค ในญี่ปุ่นกล่าวว่า "การที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ได้ออกมาสร้างความเชื่อมั่นว่าตลาดการเงินทั่วโลกเริ่มมีเสถียรภาพขึ้นแล้ว และบีโอเจเตรียมระบายสภาพคล่องออกจากระบบการธนาคารของญี่ปุ่นด้วยการนำตั๋วเงินคลังมูลค่า 6 แสนล้านเยนออกจำหน่ายนั้น ไม่ได้ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องวิกฤตการณ์ตลาดซับไพรม์"
          "จริงอยู่ที่ตลาดหุ้นทั่วเอเชียฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับที่ทรุดตัวลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา หลังจากธนาคารกลางหลายประเทศอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบการธนาคาร แต่นักลงทุนยังคงหวาดผวาต่อเหตุการณ์ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวลงอย่างหนักเมื่อไม่นานมานี้ จึงไม่กล้าที่จะเข้าซื้อหุ้นในตลาด" นายฮิโรชิเกะกล่าว
          เมื่อวานนี้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศเพิ่มเงินสำรองชั่วคราวอีก 2 พันล้านดอลลาร์ หลังจากที่ได้อัดฉีดเม็ดเงิน 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบการธนาคารสหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่สุดนับแต่หลังเกิดเหตุวินาศกรรมตึกเวิลด์เทรดเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปได้เพิ่มการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคาร 6.53 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ก่อนได้อัดฉีดเม็ดเงินไปแล้วมากกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์
          โกลด์แมน แซคส์เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงขณะนี้ กองทุนโกลบอล อ็อพเพอจูนิตี้ส์ ซึ่งบริหารของโกลด์แมน แซคส์ มีตัวเลขขาดทุน 27% ในตลาดซับไพรม์ ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์กำลังวางแผนที่จะอัดฉีดเม็ดเงิน 3 พันล้านดอลลาร์เข้าไปพยุงกองทุนแห่งนี้
          อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวไม่สามารถคลายความกังวลของนักลงทุนได้ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน