THG ทุ่มงบลงทุน 100 ลบ.ติดตั้งเครื่องมือแพทย์รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง หวังยกระดับสู่ Smart Hospital

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 10, 2020 14:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดตั้ง "ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม Medical Services" นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ๆ เข้ามาให้บริการเพื่อเพิ่มศักยภาพ และยกระดับโรงพยาบาลเครือ THG สู่ Smart Hospital

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้วางงบลงทุนเพื่อใช้ในการพัฒนาและติดตั้งเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยไว้ 100 ล้านบาท โดยเริ่มดำเนินการติดตั้งที่โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมืองเป็นที่แรก และจะทยอยไปให้ครบทุกโรงพยาบาลในเครือ

นพ.บุญ กล่าวว่า ที่ผ่านมา THG ได้นำเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง อาทิ ระบบทันตกรรมดิจิทัล สามารถทำรากฟันเทียมเสร็จภายใน 1 วันเท่านั้น, ศูนย์ตรวจสุขภาพ (Personalized Wellness Check-Up Center) สามารถให้บริการตรวจสุขภาพแบบครบวงจรภายในที่เดียวและออกแบบโปรแกรมเช็กอัพที่เหมาะกับแต่ละบุคคล นอกจากนี้เตรียมนำหุ่นยนต์ผู้ช่วยบุคลากรทางแพทย์เข้ามาให้บริการภายใน รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง เพื่อลดการสัมผัสและเพิ่มขีดความสามารถให้บริการแก่คนไข้และการจัดการภายในโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

"เทรนด์ของโรงพยาบาลในอนาคตจะต้องพัฒนาสู่ Smart Hospital นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ต่างๆ เข้ามาใช้ เช่น ระบบ A.I., เพื่อยกระดับบริการให้ก้าวหน้าล้ำสมัยสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล ช่วยให้คนไข้ที่อยู่ห่างไกลสามารถได้รับคำปรึกษาและเข้าถึงการรักษาได้ทันเวลา ขณะที่โรงพยาบาลสามารถให้บริการคนไข้ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น" นายแพทย์บุญ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าเป้าหมายของการเป็น Smart Hospital จะเห็นความชัดเจนได้ภายในปลายปี 63 โดยปัจจุบันมีความคืบหน้าของการพัฒนาแพลตฟอร์มดังกล่าว ซึ่งเป็นการบริการผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอก และติดตามผลในเรื่องง่ายๆ ราว 30% แล้ว และเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะนำมาใช้ในเครือโรงพยาบาล THG ทุกแห่ง และจำหน่ายให้กับโรงพยาบาลที่สนใจทั่วโลก

อย่างไรก็ตามมองว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวในอนาคตน่าจะช่วยลดสัดส่วนผู้ป่วยนอก (OPD) ที่จะเข้ามารักษาในโรงพยาบาล THG ลงเหลือ 50% ในปลายปีนี้ และคงเหลือผู้ป่วยที่จำเป็นต้องมาโรงพยาบาลราว 20% ในอนาคต รวมถึงช่วยย่นระยะเวลาการรักษา หรือการผ่าตัดของผู้ป่วยใน (IPD) ลง ทำให้เอื้อกับการฟื้นตัวของผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก รวมถึงยังช่วยลดต้นทุนด้านบุคลากร พนักงานในโรงพยาบาลลงอีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ