นายชลัช ชินธรรมมิตร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น(KSL)คาดว่า การสร้างโรงงานเอทานอลแห่งที่ 2 จากเดิมที่คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 51 นั้นอาจจำเป็นต้องเลื่อนออกไปเป็นปี 53 เนื่องจากยังไม่มั่นใจกับสภาวะตลาดเอทานอลในประเทศ ซึ่งปัจจุบันปริมาณเอทานอลยังผลิตได้มากเกินกว่าความต้องการของตลาดอยู่มาก จนจำเป็นต้องส่งออกไปต่างประเทศ
พร้อมกันนี้ KSL ยังเตรียมทบทวนแผนการก่อสร้างโรงงานเอทานอลแห่งที่ 3 ที่จะดำเนินการในอนาคต โดยอาจดึงกลุ่มผู้ใช้เอทานอลเข้ามาร่วมทุนด้วย
สำหรับรายได้รวมของ KSL ในปี 50 จะสูงกว่า 9 พันล้านบาท จากปี 49 ที่มีรายได้ประมาณ 6 พันล้านบาท และในปีหน้ารายได้จะเติบโตอย่างน้อย 5-10% จากปีนี้ แต่ต้องขึ้นกับปริมาณผลผลิตอ้อย ซึ่งคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.)คาดว่าผลผลิตอ้อยปี 50/51 จะอยู่ที่ 70 ล้านตันอ้อย จากปี 49/50 ซึ่งอยู่ที่ 63.8 ล้านตันอ้อย
ปัจจุบันราคาน้ำตาลในตลาดโลกนั้น น้ำตาลทรายขาวอยู่ที่ 280 เหรียญสหรัฐ/ตัน ปรับตัวลดลงจากก่อนหน้าที่อยู่ที่ 300 เหรียญสหรัฐ/ตัน ขณะที่น้ำตาลทรายดิบอยู่ที่ 9.5 เซนต์/ปอนด์ จากก่อนหน้าที่ขึ้นไปถึง 15 เซนต์/ปอนด์ ซึ่งราคาน้ำตาลทรายดิบคาดว่าจะทรงตัวอยู่ที่ 8-10 เซนต์/ปอนด์ในปีนี้ ส่วนราคาราคาอ้อยขั้นสุดท้ายปี 50/51 ตามที่กอน.จะอยู่ที่ 702 บาท/ตัน ซึ่งเป็นราคาที่ทำให้ชาวไร่อ้อยพอใจ
นายชลัช คาดว่า ในปี 51 รายได้จากการผลิตเอทานอลจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 800 ล้านบาท จากปีนี้ที่ประมาณ 400 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต 45 ล้านลิตร/ปี ในขณะที่ปีนี้เดินเครื่องเพียง 50% ของกำลังการผลิตเท่านั้น
ส่วนรายได้จากโรงไฟฟ้าในปีหน้า คาดว่าบริษัทจะมีรายได้จากโรงไฟฟ้า SPP ประมาณ 400-500 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปีนี้ และจะมีรายได้จากการขายไฟฟ้า VSPP จำนวน 3 โรง รวมรายได้ประมาณ 20 ล้านบาท
นายชลัช กล่าวว่า ในปี 51 บริษัทจะปรับแผนการส่งออกเอทานอลเพิ่มเป็น 50% ของกำลังการผลิต จากปัจจุบันที่ส่งออกในสัดส่วนไม่เกิน 20% โดยเน้นส่งออกไปยังตลาดเกาหลีใต้, จีน, ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ สำหรับปีนี้คาดว่าจะส่งออกเอทานอลได้ประมาณ 6-7 ล้านลิตร
ทั้งนี้ KSL ได้เซ็นสัญญาร่วมกับโรงงานผลิตเอทานอลอีก 2 แห่ง คือ ไทยแอลกอฮอล์ และเคไอเอทานอล เพื่อส่งออกเอทานอไปยังประเทศจีนจำนวน 12 ล้านลิตรภายในปีนี้ ซึ่งเป็นการส่งออกในส่วนของ KSL ถึง 6 ล้านลิตร และจะเริ่มทยอยส่งออกตั้งแต่เดือน ก.ย.-ธ.ค.50
สำหรับการการลงทุนก่อสร้างโรงงานน้ำตาลในต่างประเทศนั้น ปีหน้า KSL จะใช้เงินลงทุนก่อสร้างโรงงานน้ำตาลในลาวและกัมพูชาเป็นเงิน 2,000 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นฐานการผลิตน้ำตาลส่งออกไปยังสหภาพยุโรป(EU)ที่ได้ราคาส่งออกสูงถึง 500 เหรียญสหรัฐ/ตัน และมีแผนจะก่อสร้างโรงไฟฟ้าในลาวและกัมพูชาช่วงปี 53-54 หลังจากที่มีปริมาณอ้อยใน 2 ประเทศมากพอที่จะสร้างโรงไฟฟ้า
อย่างไรก็ดี บริษัทเตรียมจะออกหุ้นกู้จำนวน 1.5-2 พันล้านบาทในช่วง ต.ค หรืออย่างช้าต้น พ.ย.50 เพื่อนำไปใช้ลงทุนในโครงการก่อสร้างโรงงานน้ำตาลในลาวและกัมพูชา และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับบริษัท
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--