นางนุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บางกอกเดค-คอน (BKD) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ทำให้บริษัทต้องปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยหันไปรับงานตกแต่งภายในบ้านเศรษฐีมูลค่าตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อรับงาน 4-5 ราย
ส่วนกลุ่มลูกค้าโครงการบริษัทก็ยังรับงานตกแต่งเหมือนเดิม และเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยล่าสุดรับงานรีโนเวทโรงแรมชาโต เดอ แบงคอค มูลค่ากว่า 173 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีมูลค่างานในมือที่รอรับรู้รายได้(backlog) ประมาณ 1 พันล้านบาท
"BKD หันไปจับกลุ่มลูกค้าเศรษฐี เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง แต่เราก็ไม่ได้ทิ้งงานโครงการทั้งภาครัฐและเอกชน เพียงแต่ช่วงสถานการณ์โควิด ทำให้ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวชะลอการลงทุน ซึ่งบริษัทประเมินว่าในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ จะเริ่มเห็นภาคเอกชนเริ่มกลับมาทำธุรกิจได้ตามปกติในรูปแบบใหม่หรือ New Normal"นางนุชนารถ กล่าว
สำหรับภาพรวมผลประกอบการของ BKD ในช่วงไตรมาส 2/63 แม้จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้บริษัทขาดทุน 6.3 แสนบาท จากงวดเดียวกันที่มีกำไรสุทธิ 27.5 ล้านบาท แต่การดำเนินธุรกิจของบริษัทยังคงเดินต่อไปได้โดยไม่มีการปลดพนักงาน เนื่องจากบริษัทยังมีงานในมือ (backlog) ประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่งผลให้พนักงานมีงานทำได้อย่างต่อเนื่องจนถึงปีหน้า
ประกอบกับฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีเงินสดมากพอที่จะรองรับการดำเนินธุรกิจในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด โดยมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนน้อยมากแค่ 0.2 เท่า ซึ่งหนี้สินส่วนใหญ่จะเป็นการค้า อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์ต่างๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ บริษัทก็พร้อมที่จะรับงานตกแต่งได้ทันที
ปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างเจรจารับงานลูกค้ากลุ่มโรงแรมมูลค่ารวมกว่า 1 พันล้านบาท โดยแบ่งเป็นงานปรับปรุงโรงแรมเดิม (รีโนเวท) จำนวน 3 แห่ง และงานตกแต่งโรงแรมแห่งใหม่ 1 แห่ง