นายโอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยรับประกันภัยต่อ (THRE) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมั่นใจว่าจะมีเบี้ยประกันภัยต่อสุทธิเพิ่มเป็น 3,800 ล้านบาท หรือเติบโต 10% จากปี 62 อยู่ที่ราว 36,000 ล้านบาท โดยคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากการที่บริษัทเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด 30 ผลิตภัณฑ์ โดยแบ่งเป็นผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ 28 ผลิตภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดในต่างประเทศ 2 ผลิตภัณฑ์ โดยจะทยอยเปิดตัวได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้
โดยในช่วงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เบี้ยประกันภัยด้านสุขภาพมีการเติบโตมาค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นตลาดที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ และบริษัทยังอยู่ระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมาเพิ่มเติมด้วย
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/63 บริษัทเริ่มกลับมามีกำไรสุทธิได้แล้ว 94.74 ล้านบาท เป็นผลมาจากการค่าใช้จ่ายที่ปรับตัวลดลงของสัญญาประกันภัยต่อช่วงระยะยาวกับบริษัทรับประกันภัยต่อต่างประเทศ 9 โครงการ ส่งผลให้บริษัทมีผลขาดทุนมาต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 12 ไตรมาส ก่อนหน้า ขณะที่เบี้ยประกันภัยต่อสุทธิเติบโต 10% โดยเป็นผลมาจากการที่ราคาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และความต้องการของลูกค้าใหม่ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นด้วย
"ในช่วงที่ผ่านมาการเติบโตหลักมาจากเบี้ยประกันภัยสุขภาพทุกผลิตภัณฑ์ โดยบริษัทคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ที่ได้รับปัจจัยหนุนจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ประชาชนมีความระมัดระวังในการใช้ชีวิตมากขึ้น ทำให้ทุกคนหันมาให้ความสำคัญกับประกันภัยสุขภาพมากขึ้นด้วย ซึ่งตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/63 ที้ผ่านมาบริษัมีกำไรสุทธิแล้ว จากที่เราขาดทุนมาต่อเนื่องถึง 12 ไตรมาส และเราเชื่อว่าหลังจากนี้เราก็จะยังมีผลกำไริดย่างต่อเนื่องด้วย"นายโอฬารกล่าว
ส่วนแผนการกลับมาจ่ายปันผลนั้น ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการลดทุนเพื่อล้างขาดทุนสะสมทั้งหมด คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในช่วงเดือน ต.ค. จากนั้นบริษัทจะสามารถกลับมาจ่ายเงินปันผลงวดปี 63 ได้ทันทีหลังจากที่ได้ผ่านการประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทช่วงเดือน เม.ย. 64 แล้ว